รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันจะไม่ให้เกิดปัญหายารักษาโรคขาดแคลนในท้องตลาดและในโรงพยาบาลทุกแห่ง   ได้รับรายงานขณะนี้ยาเวชภัณฑ์มีพอ  แต่ในอนาคตอาจจะมีความต้องการจะใช้ยาบางรายการจะมากขึ้น เช่น กลุ่มยาปฏิชีวนะ  เตรียมนำเรื่องเข้า ครม. ถึง 3 มาตรการผ่อนผันผู้ผลิต ผู้ประกอบการยานำเข้าที่ประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้  

เช้าวันนี้ (31 ตุลาคม 2554) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในภาวะที่ทีมีน้ำท่วมกทม.และปริมณฑล ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจของประเทศ มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตยาและเวชภัณฑ์ได้รับผลกระทบมากกว่า 10 แห่ง  ผลิตยาที่ขึ้นทะเบียนกว่า 393 ตำรับ   กระทรวงสาธารณสุขได้ป้องกันปัญหาการขาดแคลนยาที่จำเป็นในการรักษาทั้งในท้องตลาดและในโรงพยาบาล  โดยเฉพาะในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งโรงพยาบาลทุกแห่งต้องใช้เหมือนกันทั่วประเทศ  และในช่วงที่มีน้ำท่วมขัง มีความจำเป็นต้องใช้ยาเวชภัณฑ์บางรายการใช้ในการรักษาโรคเพิ่มสูงขึ้น เช่นยาปฏิชีวนะ          ได้สั่งการให้นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  และนายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.)  จัดหายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้เพียงพอ   ประชุมผู้ผลิตยา และผู้ประกอบการเพื่อหารือ การเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานยาในประเทศไทย   หากมีความจำเป็นให้ อภ.เป็นผู้นำเข้ายาและเวชภัณฑ์จากต่างประเทศ   เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนยาของผู้ป่วย 

          นายวิทยากล่าวต่อว่า  ได้รับรายงานว่าสถานการณ์ยาในประเทศ  ยังไม่มีปัญหาขาดแคลนแต่อย่างใด     และโรงงานที่ถูกน้ำท่วมมีสต็อกยาเก็บไว้ชั้นบน  สามารถนำมาใช้ได้ทันที   อย่างไรก็ตาม    ผู้รับอนุญาตผลิตยาที่โรงงานได้รับความเสียหายจากอุทกภัย   กระทรวงสาธารณสุขได้นำข้อเสนอจากากรประชุมผู้ประกอบการ ซึ่งได้ข้อสรุปมาตรการจัดหายาเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้นใน 3 ประเด็นดังนี้  1. ว่าจ้างผู้ผลิตยารายอื่นทดแทนเป็นการชั่วคราว จนกว่าโรงงานจะกลับมาผลิตได้อีกครั้ง  โดยตำรับยาที่จะผลิตนั้นต้องมีสูตร ฉลาก เอกสารกำกับยา  ขนาดบรรจุ เอกสารการควบคุมคุณภาพและรายละเอียดอื่นๆ เหมือนกับทะเบียนกำกับยาที่ผลิตเดิม  แต่ให้ผ่อนผันการส่งข้อมูลการตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการผลิต และการศึกษาความคงสภาพยาภายหลัง  2.การนำเข้ายาบางรายการโดยเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ได้ว่าจ้างโรงงานผลิตยาให้ แต่โรงงงานดังกล่าวถูกน้ำท่วม เสียหาย   โดยประสงค์ที่จะนำเข้ายาจากต่างประเทศมาทดแทนยาที่ผลิต  ให้ขอความร่วมมือจาก อภ.เป็นผู้นำสั่งยาเพื่อทดแทนในรายการที่ผลิตไม่ได้  3. การจัดส่งยา ให้ อย.ขอความร่วมมือจาก บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด  เข้ามาร่วมในการจัดส่งและกระจายยาไปยังพื้นที่เป้าหมายทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในขณะนี้ด้วย         โดยจะนำข้อเสนอที่กล่าวมาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ 

 ******************************  31 ตุลาคม 2554



   
   


View 9    31/10/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ