ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าการรักษาเหยื่อทัวร์มรณะ ขณะนี้นอนรักษาตัว 23 รายเท่าเดิม แต่อาการโคม่า 8 ราย จากปัญหาการทำงานของไต การหายใจ รวมทั้งปัญหาเนื้อตาย แพทย์ดูแลใกล้ชิด โดยเป็นผู้ป่วยที่ ร.พ.มหาราชโคราช 3 ราย ร.พ.สระบุรี 3 ราย โดย 1 รายยังตามญาติไม่ได้ และอยู่ที่ ร.พ.พระพุทธบาท 2 ราย และวันนี้ ร.พ.มวกเหล็กได้ส่งหลักฐานที่ติดตัวศพ 10 ราย ให้ตำรวจส่งแผนกนิติเวช ร.พ.ศิริราช ประกอบการพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าในการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถทัวร์บริษัทศรีสงวนยานยนต์ สายยโสธร-กรุงเทพฯ เกิดเหตุไฟไหม้ พลิกคว่ำที่ถนนมิตรภาพ บริเวณตรงข้ามโรงพยาบาลมวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 20 มีนาคม 2550 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30 ราย โดยขณะนี้ยังคงมีผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกนอนรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด 23 ราย ประกอบด้วย โรงพยาบาลสระบุรี 14 ราย โรงพยาบาลพระพุทธบาท 3 ราย และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 6 ราย ในวันนี้โรงพยาบาลมวกเหล็ก จ.สระบุรี ได้จัดส่งหลักฐาน ทรัพย์สิน ที่ติดตัวศพแต่ละศพ จำนวน 10 ราย ซึ่งทางโรงพยาบาลได้รวบรวมเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในวันเกิดเหตุ ให้สถานีตำรวจภูธรมวกเหล็ก เพื่อจัดส่งให้แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ใช้ประกอบในการพิสูจน์เอกลักษณ์ศพต่อไป นายแพทย์ปราชญ์กล่าวว่า จากการติดตามผลการรักษาของผู้ป่วย พบว่าในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้มีอาการหนักทั้งหมด 8 ราย ส่วนใหญ่จะมีปัญหาการทำงานของไตเนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำ และการหายใจ เนื่องจากเนื้อเยื่อที่ถูกไฟคลอกจะมีอาการบวมขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการหายใจ รวมทั้งปลายมือปลายเท้า อาจมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ จากหลอดเลือดถูกกดจนตีบตัน เลือดไหลเวียนไม่ดี มีปัญหาเนื้อตายตามมา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปริมาณน้ำเข้าและออกจากร่างกาย ต้องเก็บตวงอย่างละเอียดตลอด 24 ชั่วโมงทุกราย รวมทั้งต้องให้ยาแก้ปวดทุก 4 ชั่วโมง เนื่องจากปวดแผลมาก และให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้ออย่างเต็มที่ โดยผู้ป่วยที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 6 ราย วานนี้อาการหนัก 2 ราย คือนางสาวสิรินทร์ รัตนธรรม อายุ 15 ปี ม้ามแตก ความเข้มข้นเลือดลดลง แพทย์ให้เลือดเพิ่ม แผลไฟไหม้ 10 เปอร์เซ็นต์ ใช้เครื่องช่วยหายใจ มีไข้จากการสูญเสียน้ำจากร่างกาย รู้สึกตัว นอนอยู่ตึกศัลยกรรม 2.นายประเจน ทรัพย์ศิริรัตน์ อายุ 54 ปี ใช้เครื่องช่วยหายใจ มีแผลไฟไหม้ 25 เปอร์เซ็นต์ ที่หน้า อก ลึกเกือบชั้นกล้ามเนื้อ รู้สึกตัวดี มีไข้สูง ไตทำงานน้อยลง ได้ให้พลาสม่าเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายช่วยให้ไตทำงานดีขึ้น ให้นักกายภาพบำบัดมาฝึกการหายใจ การบริหารปอด ยังนอนอยู่ห้องแยกปลอดเชื้อ และวันนี้มีอาการหนักขึ้นอีก 1 ราย คือ นางอุไร ชาสมบัติ อายุ 52 ปี ไฟไหม้ 55 เปอร์เซ็นต์ หายใจเองไม่ได้ แพทย์ใส่เครื่องช่วยหาย ที่ใบหน้า แขน ขา เท้าข้างซ้ายหัก ไม่มีไข้ ที่เหลืออีก 3 ราย อาการดีขึ้น โดย นายธีรยุทธ์ ตันไธสง อายุ 18 ปี หายใจเองได้ มีไข้ต่ำๆ ให้พลาสม่าช่วยการทำงานของไต เด็กหญิงทิพวัลย์ แดนวัง อายุ 14 ปี ไฟไหม้ 55 เปอร์เซ็นต์ อาการดีขึ้น แต่ยังต้องใช้ท่อช่วยหายใจ และนางละไม เทือกสีบุญ อายุ 53 ปี ไฟไหม้ 45 เปอร์เซ็นต์ ให้ดมออกซิเจน รู้สึกตัวดี ขยับตัวได้ บาดแผลไม่ติดเชื้อ นายแพทย์ปราชญ์กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท มี 3 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 2 ราย นอนห้องไอซียู คือนายบัณฑิต สีชา อายุ 51 ปี ถูกไฟไหม้ 30 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ รู้สึกตัวดีขึ้น ไม่มีไข้ อีก 1 รายคือเด็กหญิงรัตนามน จำปาดี อายุ 10 ปี มีบาดแผลไฟไหม้ 30 เปอร์เซ็นต์ ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ความดันโลหิตปกติแล้ว เริ่มให้อาหารเหลวทางสายยางได้บ้าง ส่วนอีก 1 รายคือเด็กชายวิทวัส มูลราด อายุ 14 ปี มีบาดแผลไฟไหม้ 32 เปอร์เซ็นต์ตามหน้า ลำคอ บาดแผลค่อนข้างดี อยู่หอผู้ป่วยทั่วไป ทุกรายต้องทำแผลในห้องผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ สำหรับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลสระบุรี จำนวน 14 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 3 ราย ได้แก่ 1.นางฤทัย ทองบ่อ อายุ 40 ปี แผลไฟไหม้ 24 เปอร์เซ็นต์ บาดแผลบวมขึ้น มีเลือดซึม พอรู้สึกตัว ความดันโลหิตปกติ ใช้เครื่องช่วยหายใจและเจาะปอด เนื่องจากมีเลือดคั่งในปอด 2.นายทศพล หอมขจร อายุ 43 ปี แผลไฟไหม้ 20 เปอร์เซ็นต์ ใส่เครื่องช่วยหายใจ มีไข้ต่ำๆ ความดันโลหิตปกติ และรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 19 ปี ไม่ทราบชื่อ ยังตามหาญาติไม่ได้ มีเลือดออกในสมอง ทำการเอ็กซเรย์สมองซ้ำวันนี้ เลือดไม่ออกเพิ่ม ความดันโลหิตปกติ ส่วนอีก 11 รายที่เหลืออาการดีขึ้น แต่ต้องเฝ้าระวังการทำงานของไตและการติดเชื้ออย่างใกล้ชิดทุกราย ************************ 22 มีนาคม 2550


   
   


View 11       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ