กระทรวงสาธารณสุข เผยวัณโรคกำลังหวนกลับมาคุกคามสุขภาพคนทั่วโลก ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อวัณโรคทั่งโลกราว 2,000 ล้านคน และมีผู้ป่วย 15 ล้านคน สำหรับไทยอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก คาดมีคนไทยราว 20 ล้านคนมีเชื้อวัณโรคในตัว พร้อมกำเริบหากสุขภาพทรุดโทรม เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าจัด หรือติดเชื้อเอดส์ ผู้ติดเชื้อวัณโรคเหล่านี้อาจป่วยได้ถึงปีละ 1 แสนคน เร่งแก้ไข จัดโครงการตรวจรักษาผู้ป่วยวัณโรคให้หายขาด ในปีนี้ฟรีทั่วประเทศ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสทรงมีพระชนม์ครบ 80 พรรษา สืบสานพระเมตตาในหลวง บ่ายวันนี้ (21 มีนาคม 2550) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมยศ เจริญศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะ แถลงข่าวการจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันวัณโรคโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 24 มีนาคมของทุกปี นายแพทย์สมยศ ได้กล่าวถึงปัญหาวัณโรคว่า วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่าฝีในท้อง เกิดจากเชื้อแบคที่เรียชื่อว่า มายโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลสิส (Mycobacterium tuberculosis) ซึ่งกำลังกลับมาเป็นปัญหาสาธารณสุขและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เป็นสาเหตุป่วยและการตายในลำดับต้นๆ ของหลายๆ ประเทศทั่วโลก สาเหตุที่ทำให้วัณโรคกลับมามีปัญหาใหม่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ รายงานขององค์การอนามัยโลกล่าสุดในปี 2549 พบประชากรโลก 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 ล้านคนติดเชื้อวัณโรค แต่ยังไม่มีอาการป่วย โดยมีผู้ป่วยวัณโรคทั่วโลกประมาณ 15 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยรายใหม่เกือบ 9 ล้านคน โดยผู้ป่วย 4 ล้านคน อยู่ในระยะที่กำลังแพร่เชื้อสู่ประชาชนรายอื่นที่อยู่ใกล้เคียงได้ มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละประมาณ 2 ล้านคน ทั้งนี้ ผู้ป่วยวัณโรคส่วนใหญ่ร้อยละ 80 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา 22 ประเทศ ประเทศในเอเชียที่มีผู้ป่วยวัณโรคมากที่สุดได้แก่ อินเดีย จีน อินโดนีเซีย สำหรับไทยมีปัญหาวัณโรคอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลกและถือว่าเป็นปัญหาสาธารณสุขอันดับ 6 รองจากมะเร็ง โรคหัวใจ อุบัติเหตุ เอดส์ ไข้เลือดออก ในปี 2549 ตรวจพบผู้ป่วยวัณโรค 58,639 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 70 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ที่ตรวจพบเชื้อในเสมหะ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อจากการไอจามติดต่อคนรอบข้างได้ ส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงานอายุ 15-44 ปี และเป็นผู้ป่วยรายเก่าที่รักษาหายแล้วกลับมาป่วยซ้ำอีก 1,782 คน ผู้ป่วยวัณโรคที่พบเหล่านี้เสียชีวิตปีละ 12,000 คน และในผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ติดเชื้อเอดส์ด้วยร้อยละ 15 พบมากที่สุดร้อยละ 30 ที่ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา แม่ฮ่องสอน และลำพูน นอกจากนี้ ประมาณร้อยละ 30-40 ของคนไทยหรือประมาณ 20 ล้านคน มีเชื้อวัณโรคในตัวอยู่แล้ว หากคนกลุ่มนี้มีภูมิต้านทานอ่อนแอลง เช่น ดื่มเหล้าจัด สูบบุหรี่ ขาดอาหาร ติดเชื้อเอดส์ เชื้อจะแผลงฤทธิ์ทำให้ป่วยได้ โดยองค์การอนามัยโลกคาดประมาณว่าประเทศไทยอาจจะมีผู้ป่วยวัณโรคได้ถึงปีละ 91,000 ราย ในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดใหม่ของโรควัณโรค ในปี 2550 นี้ ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา และพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่องานสาธารณสุขมานานกว่า 60 ปี โดยเฉพาะการสงเคราะห์ผู้ยากไร้ที่เจ็บป่วยจากโรคติดต่อ ผู้ป่วยวัณโรคที่ขาดแคลนยารักษา กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สืบสานพระเมตตา เร่งรักษาผู้ป่วยวัณโรค ฟรีทั่วประเทศ ตลอดปี 2550 โดยประชาชนที่มีอาการสัญญาณว่าป่วยเป็นวัณโรคคือ มีไข้ต่ำๆ ซึ่งมักเกิดตอนบ่ายๆ มีเหงื่อออกตอนกลางคืน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ร่างกายผ่ายผอมลง ไอแห้งเรื้อรังนานเป็นแรมเดือน ไอเป็นเลือด โดยอาการจะค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วยวัณโรค สามารถไปขอรับบริการตรวจที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับกว่า 800 แห่งทั่วประเทศได้ เพื่อให้ผู้ป่วยวัณโรคทุกรายเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ ตั้งเป้ารักษาให้หายขาดมากกว่าร้อยละ 85 ทั้งนี้ปัญหาสำคัญของผู้ป่วยวัณโรคในยุคนี้ ได้แก่ ปัญหาในด้านการรักษาให้หายขาดยากขึ้น เนื่องจากมีปัญหาการขาดยา กินยาไม่ครบตามที่กำหนด 6 เดือน ส่วนใหญ่จะหยุดยาหลังกินได้ 1-2 เดือนแล้วอาการดีขึ้น คิดว่าหายขาดแล้ว พบได้ประมาณร้อยละ 10 นอกจากนี้ ยังมีปัญหากลุ่มที่เสี่ยงติดเชื้อวัณโรคง่ายได้แก่ เด็ก คนชรา ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคไต โรคเอสแอลอี ผู้ติดสารเสพติด ผู้ดื่มเหล้าจัด ผู้ที่ขาดสารอาหาร และมีสุขภาพอ่อนแอ ขาดการออกกำลังกาย เพราะมีภูมิต้านทานในร่างกายต่ำกว่าคนปกติทั่วไป นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในวันวัณโรคโลกปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ให้สถานพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศจัดนิทรรศการ รณรงค์เผยแพร่ความรู้เรื่องการป้องกันโรควัณโรคพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 24 มีนาคม 2550 พร้อมกับทุกประเทศทั่วโลก โดยองค์การอนามัยโลกใช้คำขวัญว่า “TB ANYWHERE IS TB EVERYWHERE” ซึ่งประเทศไทยใช้ คำขวัญรณรงค์ ว่า “วัณโรคพบได้ทุกแห่งหน ทุกชุมชนร่วมตรวจค้นและรักษา” ทั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้ป่วยมารับการตรวจและรักษาให้หายขาดมากที่สุด เนื่องจากเชื้อวัณโรคสามารถแพร่ทางการไอ จาม เชื้อจะอยู่ในเสมหะของผู้ป่วย และทำให้คนทั่วไปติดเชื้อโดยไม่มีอาการได้ ผู้ป่วยวัณโรค 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้มากกว่า 10 คน ฉะนั้นหากผู้ป่วยวัณโรครักษาให้หายขาดทั้งหมด ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้คนอื่นติดโรคได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะจัดรายการสนทนาปัญหาวัณโรค และตอบปัญหาสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ในรายการบ่ายนี้มี-คำตอบ ในวันที่ 22 มีนาคม 2550 เวลา 14.00-14.45 น. และจัดงานรณรงค์ในวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2550 ที่วัดกลางวรวิหาร อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีบริการเอ็กซเรย์ปอด ตรวจความดันโลหิต และอื่นๆ อีกมากมาย มีศิลปินดาราร่วมงาน อาทิ ทราย เจริญปุระ ปาลิตา โกศลศักดิ์ และทีมงานนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ************************** 21 มีนาคม 2550


   
   


View 13    21/03/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ