รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเตือนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม หลีกเลี่ยงอย่าลงเล่นน้ำระวังอย่าให้น้ำสกปรกเข้าตา เนื่องจากเสี่ยงเกิดโรคตาแดงแนะประชาชนให้บริโภคน้ำสะอาดรวมถึงล้างมือให้สะอาดไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยตาแดงหากน้ำสกปรกเข้าตาควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
วันนี้(26 กันยายน 2554)นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้เป็นประธานในการประชุม ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ในจังหวัดที่มีปัญหาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดในส่วนของโมเดล 2พี และ 2อาร์ ขอให้ทุกภาคส่วนได้ดำเนินการตามนั้น ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ทราบว่ามีปัญหาในเรื่องของโรคตาแดง ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนให้ระมัดระวังเรื่องน้ำสกปรกเข้าตา และไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน
นายวิทยา กล่าวว่า ในขณะนี้มีน้ำท่วมหลายจังหวัดซึ่งอยู่ในระยะน้ำหลากนี้ขอให้ประชาชนระวังเรื่องการจมน้ำ อันตรายจากไฟฟ้า ไฟดูดสัตว์มีพิษน้ำกัดเท้า และแผลเปื่อยติดเชื้อนอกจากนี้อาจมีการระบาดของโรคตาแดงได้ง่ายซึ่งมากับน้ำที่สกปรก ท่วมขังโดยเชื้อจะติดมากับนิ้วมือและเข้าสู่ตาโดยการขยี้ อาการของโรคตาแดงจะเริ่มจากระคายเคืองตา ตาขาวจะมีสีแดงเรื่อๆ มีน้ำตาไหล เจ็บตามักจะมีขี้ตามากร่วมด้วย
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า จากการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทั้งหมด 2,926 ครั้ง มีผู้มารับบริการทั้งหมด 368,432 ราย และจากการเฝ้าระวังโรคที่มักจะมากับน้ำท่วม ใน 22 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 21 กันยายน 2554 พบผู้ป่วยโรคตาแดง 1,746 ราย 3 จังหวัดแรกที่พบผู้ป่วยสูง ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ มหาสารคาม
ในการป้องกันโรคตาแดง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็กๆซึ่งช่วงนี้อยู่ระหว่างปิดเทอม อย่าลงเล่นน้ำที่ท่วมขัง ขอให้ใช้น้ำสะอาดล้างหน้า อย่านำน้ำท่วมมาล้างหน้า เนื่องจากน้ำท่วมจะมีความสกปรกสูงมีเชื้อโรคที่มาจากสิ่งปฏิกูลต่างๆปะปนมาจำนวนมาก หากน้ำสกปรกเข้าตาควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดและไม่ควรใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยตาแดง เช่น ผ้าเช็ดหน้าผ้าเช็ดตัว และให้ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดบ่อยๆซึ่งจะสามารถลดการติดเชื้อได้ หากมีอาการเจ็บตา ตาแดง มีขี้ตามากควรรีบไปพบแพทย์ที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือสถานีอนามัยที่อยู่ใกล้ทันทีไม่ควรซื้อยามาหยอดตารักษาเองเนื่องจากอาจไม่ได้ผลและอาจทำให้การอักเสบรุนแรงมากขึ้น
************************************** 26 กันยายน 2554
View 13
26/09/2554
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ