กระทรวงสาธารณสุข สร้างรอยยิ้มผู้สูงวัย ลงนามเอ็มโอยูร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางทันตกรรมผลิตรากฟันเทียมคุณภาพดี  ใส่ให้ผู้สูงอายุ 8,400 ราย ในโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554

          วันนี้ (12 กันยายน 2554) ที่โรงแรมสยามซิตี้ กรุงเทพมหานคร นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี   มอบโยบายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  โดย นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามบันทึกความร่วมมือ หรือเอ็มโอยู (MOU) ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทันตกรรมในการผลิตรากฟันเทียม ช่วยให้ประชาชนไทยเข้าถึงการรักษาด้วยรากฟันเทียมอย่างเท่าเทียมกัน    

          นายวิทยา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งได้ดำเนินการฝังรากฟันเทียมให้กับผู้สูงอายุจำนวน 10,000 ราย ประสบผลสำเร็จอย่างดี ผู้สูงอายุที่ได้รับการใส่รากฟันเทียมมีความพึงพอใจอย่างมาก  สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้น มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากโครงการดังกล่าวได้ฝึกอบรมทันตบุคลากรเพื่อใส่รากฟันเทียมจำนวน 349 คน

          นายวิทยา กล่าวอีกว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการด้านบริการทันตกรรมแก่ผู้สูงอายุ 2 โครงการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสร้างรอยยิ้มให้ผู้สูงอายุ  ได้แก่1. โครงการฟันเทียมพระราชทาน เป้าหมายใส่ให้ผู้สูงอายุทั่วประเทศ 3 หมื่นราย และโครงการใส่รากฟันเทียมให้กับผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากเป้าหมาย 8,400 ราย โดยใส่ให้คนละ 2 ราก เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2555-2557  โดยร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ผลิตรากฟันเทียมคุณภาพดีใช้ในโครงการดังกล่าว  ตามข้อตกลงนี้ จะอบรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทันตกรรมให้กับทันตแพทย์ทั่วไป และทันตแพทย์เฉพาะทาง การแลกเปลี่ยนบุคลากร รวมถึงการพัฒนางานวิจัยทางทันตกรรมโดยใช้ห้องปฏิบัติการร่วมกัน มีผลบังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 - 30 กันยายน 2559

          ด้านนายแพทย์ไพจิตร์  วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  ผลการสำรวจสุขภาพช่องปากในระดับประเทศ ล่าสุดในปี 2550  พบว่าผู้สูงอายุ 60-74 ปี และ 80 ปี ร้อยละ 94 หรือเกือบทุกคน มีการสูญเสียฟันเฉลี่ยคนละ 13 ซี่  มีผู้สูงอายุร้อยละ 10 สูญเสียฟันทั้งปาก หรือประมาณ  7 แสนคน พบในภาคกลางสูงสุด  สาเหตุที่ทำให้สูญเสียฟันมาก เกิดมาจาก 2 ประการใหญ่ ได้แก่1. โรคปริทันต์ ซึ่งทำให้มีเหงือกอักเสบและเหงือกร่นด้วย พบในผู้สูงอายุมากที่สุดร้อยละ 84   ทำให้ฟันโยกคลอนง่ายขึ้น    โดยต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคปริทันต์คือการสูบบุหรี่  ซึ่งมีผู้สูงยังสูบบุหรี่เฉลี่ยร้อยละ 18 สูบเฉลี่ยวันละ 7 มวน   2.เกิดมาจากผู้สูงอายุมีการเข้ารับบริการตรวจสุขภาพทางช่องปากเพียง 1 ใน 3  เท่านั้น ทำให้การดูแลสุขภาพฟันไม่ดีพอ  ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเร่งแก้ไขโดยตั้งชมรมผู้สูงอายุและส่งเสริมความรู้การดูแลสุขภาพช่องปาก โดยเฉพาะการเพิ่มคุณภาพการแปรงฟันให้สะอาดเพียงพอต่อการป้องกันโรค        

      **********************   12 กันยายน 2554



   
   


View 15    12/09/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ