สธ. เผย ผลกระทบฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ โรคผิวหนังเดิมกำเริบ ในระยะยาวส่งผลเป็นมะเร็งผิวหนังได้
- สำนักสารนิเทศ
- 219 View
- อ่านต่อ
“รู้เร็ว แจ้งเร็วและควบคุมโรคเร็ว”พร้อมรับมือภัยพิบัติ โรคระบาดและภัยสุขภาพ ตั้งเป้าครบทุกตำบลใน 5 ปี พร้อมต่อยอดสร้างความเข้มแข็งการควบคุมโรคในระดับอำเภอ
วันนี้(12 กันยายน 2554) ที่โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาเครือข่าย“อำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยั่งยืน” จัดโดยกรมควบคุมโรค เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานควบคุมโรคของผู้ปฏิบัติงานในระดับอำเภอ และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ นักวิชาการควบคุมโรคจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมสัมมนา 2,500 คน พร้อมมอบโล่รางวัล อำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยั่งยืน ดีเด่น ให้18 เขตตรวจราชการด้วย
นายวิทยา กล่าวว่า การสัมมนาที่จัดขึ้นในวันนี้ นับว่ามีความสำคัญและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรค ระบบการเตือนภัย การจัดการที่มีประสิทธิผล ทันการณ์ เมื่อเกิดภัยพิบัติโรคระบาดและภัยทางสุขภาพ ซึ่งนอกจากจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง ยังมีผลต่อเศรษฐกิจความเชื่อมั่นในสายตาต่างประเทศด้วย เนื่องจากโรคระบาดและภัยทางสุขภาพนั้น มีผลกระทบรวดเร็วทั้งจากเทคโนโลยีการสื่อสารและการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว จึงต้องพัฒนาความพร้อมด้านนี้ทั้งในระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล เป็นเครือข่ายการทำงานอย่างบูรณาการ เพื่อสร้างความมั่นใจประชาชนไทยและชาวต่างประเทศ หากเกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าจะในต่างประเทศหรือในประเทศ ก็สามารถปกป้องสุขภาพ ลดการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวิทยากล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข มีทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว หรือเอสอาร์อาร์ที (SRRT) ระดับอำเภอทั่วประเทศจำนวน 1,030 ทีม ในปี 2554 นี้ มีนโยบายขยายลงสู่ระดับตำบล โดยนำร่องในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวน 2,000 ทีม ยุทธศาสตร์การทำงานจะเน้นหนักเรื่อง 3 เร็วคือ “ รู้เร็ว แจ้งเร็ว และควบคุมโรคเร็ว ” ทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยเอสอาร์อาร์ทีระดับอำเภอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินผลการดำเนินงาน ตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะให้มีครบทุกตำบล มั่นใจว่าจะทำให้ระบบการควบคุมป้องกันโรคติดต่อและภัยสุขภาพอื่นของประเทศไทยในอนาคต จะมีความเข้มแข็ง
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งพัฒนาให้มีอำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยั่งยืน ให้สามารถสกัด จำกัด ขอบเขตของโรคและภัยสุขภาพหรือผลกระทบของปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ 1.มีองค์กรและโครงสร้างที่เข้มแข็ง มีคณะกรรมการควบคุมโรคระดับอำเภอ โดยความร่วมมือของภาครัฐ ท้องถิ่นและประชาชน 2. มีทีมเอสอาร์อาร์ทีอย่างน้อยตำบลละ1 ทีม และมีระบบข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังโรค สวบสวนโรคและภัยสุขภาพ 3.มีแผนงานควบคุมโรคของอำเภอทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ 4.มีการระดมทรัพยากร ตั้งกองทุนในท้องถิ่นสนับสนุนงานควบคุมโรค และ5.มีความสำเร็จในการควบคุมโรคที่เป็นปัญหาระดับประเทศและโรคในพื้นที่
***************** 12 กันยายน 2554