วันนี้(9 พฤศจิกายน 2553)นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของกระทรวงสาธารณสุขว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเป็นหลักการเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับน้ำท่วมแล้ว ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ให้ตกลงกับสำนักงบประมาณ และวันนี้ได้ข้อสรุปว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดจากน้ำท่วมของกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 310 ล้านบาท ประกอบด้วย รายการที่จะปรับปรุงซ่อมแซมสถานพยาบาล สถานีอนามัยต่างๆ   รวมทั้งงบประมาณสำหรับซื้อยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือต่างๆ และการช่วยเหลือโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ประสบปัญหา เช่น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลหาดใหญ่ เป็นต้น รวมทั้งกรณีที่จะต้องจ้างเอกชนเข้าไปแก้ไขปัญหาเรื่องอาหาร ระบบซักรีด ในช่วงประสบปัญหาน้ำท่วม และรายละเอียดอื่นๆ เฉพาะที่รพ.หาดใหญ่ ประมาณการความเสียหาย 16.5 ล้านบาท  

           นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า   สำหรับโรงพยาบาลหาดใหญ่ได้เริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันจันทร์ ซึ่งมีผู้ป่วยนัดมารับยาทั้งหมด 3,000 ราย แต่มีผู้ป่วยมารับบริการเพียง 2,100 ราย เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินประมาณ 100 ราย กรณีผู้ป่วยฉุกเฉินส่วนใหญ่มีบาดแผลที่เท้า เนื่องจากถูกกระเบื้องบาด หินบาด เพราะเดินเท้าเปล่าย่ำน้ำ ถือว่าเป็นอันตรายมาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคฉี่หนู ขอฝากเตือนประชาชนอย่าเดินเท้าเปล่าย่ำน้ำเป็นอันขาด 
          นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ต้องเร่งดำเนินการขณะนี้คือหม้อแปลงไฟฟ้า ขณะนี้เดินเครื่องได้ทั้ง 3 เครื่องทีมีอยู่แล้ว แต่มีปัญหาหม้อแปลงที่จะต้องซ่อมแซมหรืออาจจะซื้อใหม่ ซึ่งวิศวกรที่ส่งไปจากส่วนกลางกำลังประเมินว่า ระหว่างซ่อมกับซื้อใหม่อันไหนจะคุ้มค่ากว่า หรือซื้อใหม่เพื่อทดแทนและซ่อมไว้เพื่อสำรอง เพราะขณะนี้มีปัญหาการผ่าตัดใหญ่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ยกเว้นการผ่าตัดเล็กน้อยที่ทำได้ ต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว ได้สั่งการแล้วหากได้ข้อสรุปอย่างไรให้แจ้งไปที่ส่วนกลาง ส่วนปัญหาการขาดเลือดนั้น เนื่องจากขณะที่น้ำท่วมโรงพยาบาลหาดใหญ่ มีเลือดเสียหายไปครึ่งหนึ่งเพราะระบบไฟ แต่อีกครึ่งไปฝากไว้ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลาครินทร์ ขณะนี้ได้นำกลับมาไว้ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่แล้ว แต่ยังต้องการเลือดกรุ๊ปเอ กรุ๊ปบีเพิ่มเติม สำรองไว้หากมีกรณีฉุกเฉิน     
***************************************9 พฤศจิกายน 2553
 
 


   
   


View 9    09/11/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ