กระทรวงสาธารณสุข ปรับระบบบริหารจัดการพื้นที่น้ำท่วมให้เหมาะสมทันเหตุการณ์ ระดมทีมแพทย์จากโรงพยาบาลข้างเคียงร่วมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในจ.นครราชสีมา ส่วนโรงพยาบาลมหาราชคาดว่าอ๊อกซิเจนจะใช้ได้อีกประมาณ 3-4 วัน จะเริ่มทยอยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนัก 40 รายแรกไปโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงพยาบาลค่ายสุรนารีในเย็นวันนี้ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหรือวอร์รูมของกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯเมื่อบ่ายวันนี้ (18 ตุลาคม 2553) ว่าที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์น้ำท่วม มีทั้งหมด 12 จังหวัด หนักที่สุดมี 2 จังหวัดคือ นครราสีมา ลพบุรี โดยศูนย์ปฏิบัติการฯได้วางระบบการบริหารจัดการพื้นที่ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.จังหวัดที่น้ำท่วม และมีสถานบริการโดยเฉพาะโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย ให้สำรวจความเสียหายและปรับระบบริการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ 2.จังหวัดที่มีน้ำท่วมแต่สถานบริการไม่ได้รับความเสียหาย ให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการเชิงรุกดูแลผู้ประสบภัย และเตรียมระบบป้องกันไว้ 3.จังหวัดที่น้ำยังไม่ท่วมแต่มีความเสี่ยงจะท่วม ให้จัดระบบการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและส่งทีมไปช่วยพื้นที่ใกล้เคียง นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า สำหรับที่รพ.มหาราชจ.นครราชสีมาล่าสุด เมื่อเวลา 17.00น. สถานการณ์โดยรวมยังอยู่ในภาวะวิกฤติ เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำใช้ในบางจุด ได้มีการวางแผนส่งต่อผู้ป่วยหนักที่มีอยู่ประมาณ 100 ราย ไปโรงพยาบาลข้างเคียง โดยจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ที่อยู่ในภาวะพอเคลื่อนย้ายได้ ไปที่โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประสานโรงพยาบาลค่ายสุรนารี โดยการเคลื่อนย้ายครั้งนี้จะใช้เรือยนต์ย้ายผู้ป่วยไปขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉินที่โรงแรมพีกาซัส เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยที่สุด และในวันพรุ่งนี้จะได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เหลือ และได้เตรียมแผนสำรองโดยประสานขอเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงผู้ป่วยไว้ในกรณีจำเป็น สำหรับผู้ป่วยนอก ขณะนี้โรงพยาบาลได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองที่โรงเรียนสุรนารีและที่โรงแรมพีกาซัส มีผู้มาใช้บริการพอสมควร แต่ไม่มีผู้ป่วยใหม่ต้องนอนโรงพยาบาลเพิ่ม ส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆที่ใช้กับผู้ป่วย ได้ประสานขอจากโรงพยาบาลข้างเคียง และทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของ จ.นครราชสีมา จะใช้บุคลากรจากโรงพยาบาลอื่นที่น้ำไม่ท่วมทั้งระดับอำเภอและจังหวัด โดยจะมีการประเมินติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ********************************** 18 ตุลาคม 2553


   
   


View 2       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ