ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ ฝุ่น PM 2.5 แนะนำผู้ชอบออกกำลังกายใช้หลัก “1 เช็ก 3 เปลี่ยน 1 ประเมิน” ก่อนออกกำลังกายเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ หลังสถานการณ์ฝุ่นมีแนวโน้มจะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง พร้อมย้ำให้หลีกเลี่ยงสวมหน้ากากชนิด N95 ระหว่างออกกำลังกายทุกประเภท เผย วันแรกของการแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนและผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ 28 ม.ค. 2568 แจกไปแล้วเกือบ 2 แสนชิ้น 

                 วันนี้ (29 มกราคม 2568) ที่ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ ฝุ่น PM 2.5 กระทรวงสาธารณสุข ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 พร้อมด้วย นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย แถลงแนวทางการดูแลสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดย ดร.นพ.วรตม์ กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ วันนี้มีจังหวัดที่มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับดีมาก (สีฟ้า) 5 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา พัทลุง สุพรรณบุรี ระดับดี (สีเขียว) 23 จังหวัด ระดับปานกลาง (สีเหลือง) 33 จังหวัด ที่เหลืออีก 15 จังหวัด ค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (37.6 - 75 มคก./ลบ.ม) ได้แก่ เพชรบุรี สุโขทัย ตราด สมุทรสาคร นนทบุรี น่าน กรุงเทพมหานคร ราชบุรี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี อุตรดิตถ์ สมุทรปราการ พิษณุโลก ระยอง และพิจิตร โดยคาดว่าช่วงสัปดาห์หน้าสถานการณ์ฝุ่นจะกลับมาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ประชาชนจึงควรตรวจสอบค่าฝุ่นอย่างต่อเนื่องเมื่อต้องออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน รวมถึงการออกกำลังกลางแจ้ง ซึ่งจะมีความเสี่ยงรับสัมผัสฝุ่นเพิ่มขึ้น

                 ดร.นพ.วรตม์ กล่าวต่อว่า ในด้านความคืบหน้าการป้องกันควบคุมโรค เมื่อวานนี้ (28 มกราคม 2568) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ เรื่องการกำหนดพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 แล้ว โดยพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชม. มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอมายังอธิบดีกรมควบคุมโรคเพื่อประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังหรือพื้นที่ควบคุม เพื่อให้สามารถดำเนินมาตรการต่างๆ ได้ต่อไป ส่วนการแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเริ่มเมื่อวานนี้เช่นกัน หน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศได้กระจายหน้ากากอนามัยไปแล้ว 187,291 ชิ้น แบ่งเป็น หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ 169,532 ชิ้น และหน้ากากชนิด N95 จำนวน 17,759 ชิ้น 

                ด้าน นพ.ธิติกล่าวว่า ในช่วงที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในปริมาณสูง การออกกำลังกายในที่โล่งแจ้งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ เนื่องจากการหายใจในช่วงปกติจะนำอากาศเข้าสู่ร่างกายประมาณ 5 ลิตร/นาที แต่ขณะออกกำลังกายจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 10-50 ลิตร/นาที หรือมากกว่าปกติถึง 10 เท่า ซึ่งจากการสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงมีสถานการณ์ PM 2.5 พบว่า มีผู้ที่ยังคงออกกำลังกายกลางแจ้ง ร้อยละ 12.75 ออกกำลังกายกลางแจ้งบางครั้ง ร้อยละ 66.37 และงดการออกกำลังกายกลางแจ้ง ร้อยละ 20.88 จึงขอแนะนำผู้ที่จะออกกำลังกายทุกคนยึดหลัก “1 เช็ก 3 เปลี่ยน 1 ประเมิน” ประกอบด้วย “1 เช็ก” คือ เช็กค่าฝุ่นก่อนออกกำลังกาย หากสูงกว่า 37.5 มคก./ลบ.ม (สีส้ม) ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงควรลดระยะเวลา ส่วนประชาชนทั่วไปให้เลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งช่วงเช้า บริเวณริมถนนหรือ บริเวณที่มีการก่อสร้าง แต่หากสูงกว่า 75 มคก./ลบ.ม (สีแดง) ให้เปลี่ยนมาออกกำลังกายในอาคาร “3 เปลี่ยน” ได้แก่ เปลี่ยนเวลามาออกกำลังกายในช่วงบ่ายหรือเย็นแทน เปลี่ยนสถานที่จากกลางแจ้งเป็นในร่มหรืออาคารที่ไม่มีฝุ่น โดยปิดประตู หน้าต่าง และอาจเพิ่มเครื่องฟอกอากาศ ส่วนในช่วงที่ค่าฝุ่นลดลง ให้เปิดหน้าต่างระบายอากาศ ลดการสะสมปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ และ เปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายที่ใช้แรงหนัก เช่น ปั่นจักรยาน ฟุตบอล วิ่ง มาเป็นการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการรับสัมผัสฝุ่น สำหรับกิจกรรมวิ่งมาราธอน หากค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง แนะนำให้หลีกเลี่ยงหรืองดกิจกรรมไปก่อน 

              และ “1 ประเมินตนเอง” ก่อนและระหว่างออกกำลังกายทุกครั้ง หากมีอาการ ไอ หายใจลำบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ให้งดหรือหยุดออกกำลังกายและไปพบแพทย์ นอกจากนี้ ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม นอนหลับให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตร/วัน หากมีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด หรือถุงลมปอดโป่งพอง โรคหัวใจ ควรพกยาประจำตัว ทั้งนี้ ไม่ควรสวมหน้ากาก N95 ระหว่างออกกำลังกายทุกประเภท กรณีออกกำลังกายเบาๆ อาจใช้หน้ากากอนามัยได้ แต่หากไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว ไม่แนะนำให้สวม เนื่องจากหน้าการจะจำกัดการระบายอากาศและลดออกซิเจน อาจทำให้หายใจลำบาก แน่นหน้าอก เวียนศีรษะ หน้ามืดได้ สำหรับนักกีฬาที่ต้องฝึกซ้อมกลางแจ้ง นอกจากประเมินความพร้อมของร่างกายแล้ว ควรเลือกซ้อมในช่วงค่าฝุ่นอยู่ในระดับดี (สีฟ้า – สีเขียว) หลีกเลี่ยงการฝึกซ้อมในช่วงค่าฝุ่นระดับสีส้ม และการสวมหน้ากาก N95 ระหว่างฝึกซ้อม เพราะจะทำให้หัวใจและหลอดเลือดทำงานหนัก

***************************************29 มกราคม 2568
 



   
   


View 910    29/01/2568   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ