รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข สั่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดน ให้จับตาเชื้อมาลาเรียพันธุ์ใหม่คือพลาสโมเดียม โนซี่ ที่เดิมพบในลิง เผยไทยเคยพบเชื้อตัวนี้แล้วเมื่อ 10 ปีก่อน ปี 2552 พบ 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ชี้เชื้อนี้ป้องกันได้ และมียารักษาหายขาด ย้ำเตือนประชาชนหากมีไข้ หนาวสั่น มีประวัติเข้าป่าขอให้นึกถึงมาลาเรีย และรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาเชื้อ จากที่มีข่าวทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยมาเลเซีย ซาราวัก พบเชื้อมาลาเรียพันธุ์ใหม่จากลิงชื่อว่า พลาสโมเดียม โนซี่ (Plasmodium Knowlesi) ซึ่งเป็นปรสิตแพร่จากลิงสู่คนโดยยุงก้นปล่อง และเชื่อว่าเชื่อนี้ร้ายกาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะสามารถขยายพันธุ์ในกระแสเลือดได้ใน 24 ชั่วโมง ซึ่งในรายงานวิจัยดังกล่าวได้ ศึกษาในกลุ่มผู้ติดเชื้อระหว่างเดือนกรกฎาคม 2549-2551 จำนวน 150 ราย พบมากกว่า 2 ใน 3 มีปัญหาที่ไต เสียชีวิต 2 รายนั้น ความคืบหน้าเรื่องนี้ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยมีข้อมูลพบผู้ป่วยจากเชื้อนี้แล้ว โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบ 1 รายที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนปี 2552 พบผู้ป่วย 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และไม่พบมีการแพร่ระบาดในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม เชื้อพลาสโมเดียม โนซี่ นี้ นับเป็นเชื้อมาลาเรียชนิดที่ 5 ที่พบในคน พาหะนำโรคมาจากยุงก้นปล่องเช่นเดียวกับเชื้ออีก 4 ชนิดที่พบมาก่อน ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่พบมาลาเรียมาก เฝ้าระวังเชื้อนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเชื้อมีการแบ่งตัวในกระแสเลือดเร็ว และไปอุดตันเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงตับ ไต ทำให้ตับไตวาย เสียชีวิตได้ และให้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน ในการป้องกันโรค เนื่องจากโรคนี้ป้องกันได้และมียารักษาหายขาด ที่สำคัญคือ หากมีไข้หนาวสั่น มีประวัติเข้าป่าหรืออยู่ในพื้นที่มาลาเรียชุกชุม จะต้องรีบมาพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อและให้การรักษาโดยเร็ว ด้านนายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในไทยพบเชื้อมาลาเรีย 4 ชนิด มากที่สุดได้แก่ พลาสโมเดียม ฟัลซิปารั่ม (Plasmodium falciparum) บริเวณชายแดนไทย-พม่า พบร้อยละ 70 ส่วนด้านชายแดนไทย-เขมร พบร้อยละ 50 มีระยะแบ่งตัวอย่างครบวงจรในเลือด 48 ชั่วโมง ที่พบรองลงมาอีก 3 ชนิด คือ พลาสโมเดียม ไวแวกซ์ (Plasmodium vivax) พลาสโมเดียม มาลาเรียอี่ และ พลาสโมเดียม โอวาเล่ (Plasmodium ovale) ระยะการแบ่งตัวในเลือดประมาณ 48-72 ชั่วโมง สำหรับเชื้อมาลาเรียชนิดพลาสโมเดียม โนซี่ เป็นเชื้อมาลาเรียชนิดที่ 5 เดิมพบในลิงและเริ่มมีรายงานพบในคน ในประเทศมาเลเซียมีรายงานพบในรัฐซาราวัก ซาบา และปาหัง ในปี 2544-2549 มีผู้ป่วย 266 ราย จากการตรวจทั้งหมด 960 ราย นอกจากนั้น ยังมีรายงานผู้ป่วยประปรายที่ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า และไทย เชื้อชนิดนี้มีลักษณะพิเศษคล้ายกับเชื้อพลาสโมเดียม มาลาเรียอี่ (Plasmodium malariae) ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้น้อยมากไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยมีอาการสำคัญเหมือนกับมาลาเรียชนิดอื่นๆ คือไข้สูง หนาวสั่น เชื้อจะมีการแบ่งตัวครบวงจรในเลือดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง ปริมาณเชื้อจะมีมากและไปอุดตันตามเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงตับ ไต ทำให้เกิดไตวาย ตับวาย เสียชีวิตได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ประชาชนไม่จำเป็นต้องกังวลหรือตื่นตระหนกเกินไป เพราะโรคนี้ป้องกันได้ด้วยการป้องกันไม่ยุงก้นปล่องกัด โดยนอนในมุ้ง ทายากันยุง หลีกเลี่ยงการเข้าป่าเขาโดยไม่จำเป็น และหากมีไข้หนาวสั่น ปวดศีรษะ หลังกลับออกจากป่าหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคมาลาเรีย ขอให้นึกถึงโรคมาลาเรียไว้ก่อน และรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกมาลาเรียประจำหมู่บ้านชุมชน พร้อมให้ประวัติการเข้าป่าให้แพทย์ทราบ เพื่อตรวจเลือดหาเชื้อมาลาเรียและให้ยารักษาที่ตรงกับเชื้อ ซึ่งขณะนี้ยาที่ใช้รักษายังได้ผลดี แต่ผู้ป่วยจะต้องกินยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง เพื่อให้รักษาหายขาดและไม่มีปัญหาเชื้อดื้อยาตามมา สำหรับสถานการณ์โรคมาลาเรียของประเทศไทย ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม-29 สิงหาคม 2552 พบผู้ป่วยมาลาเรียทั้งหมด 26,139 ราย เป็นคนไทย 11,383 ราย ต่างชาติ 14,756 ราย โดยผู้ป่วยไทยพบติดเชื้อลดลงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 30 ส่วนผู้ป่วยต่างชาติพบติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5 จังหวัดที่พบมาก 10 ลำดับ ได้แก่ ตาก เป็นคนไทย 2,965 ราย ต่างชาติ 10,996 ราย รองลงมา ยะลา กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน ชุมพร นราธิวาส ศรีสะเกษ จันทบุรี สุรินทร์ และประจวบคีรีขันธ์ กันยายน2/6-7***************************************11 กันยายน 2552


   
   


View 17    11/09/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ