วันนี้ (3 กันยายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการซึ่งประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงต่างๆและกทม.รวม16 หน่วยงาน ว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่2009 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังคงมีต่อเนื่อง และขยายตัวไปสู่พื้นที่ชนบทมากขึ้น จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยา กลุ่มที่มีอัตราการติดเชื้อมากที่สุดคือ กลุ่มนักเรียนและวัยแรงงาน คาดขณะนี้ยังมีคนไทยประมาณร้อยละ 80 ที่ยังไม่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อทุกขณะ จึงต้องเพิ่มความเข้มแข็งในมาตรการป้องกันทุกหน่วยงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการป่วยในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้แก่ เด็กนักเรียน กลุ่มคนทำงานในสถานบันเทิง กลุ่มเรือนจำ หอพักนักศึกษา กลุ่มหอพักที่จดและไม่จดทะเบียน โรงงาน ค่ายทหาร
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้หารือมาตรการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆใน 4 ประเด็นใหญ่ คือ1.การเฝ้าระวังโรคในชุมชนคือ การสร้างชุมชน อบต.ตัวอย่างที่มีระบบการเฝ้าระวังป้องกันโรคในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อให้มีรูปแบบการทำงานที่ชัดเจน และขยายผลไปทุกพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีแล้วที่ชุมชนในเขตกทม. เพราะหากคนในเขตชนบทป่วยแล้ว อาจเข้าถึงบริการได้ช้ากว่าผู้ที่อยู่ในเขตเมือง และได้ตั้งคณะทำงานบูรณาการร่วมประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคม ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นแกนหลัก ซึ่งหากทุกพื้นที่มีการตื่นตัวป้องกันอย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าจะสามารถลดการป่วยและการเสียชีวิตลงได้มาก 2. การเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั้งในสัตว์โดยเฉพาะสุกร และในคน เพื่อป้องกันเชื้อผสมข้ามสายพันธุ์ รวมทั้งการเฝ้าระวังเชื้อดื้อยา ซึ่งอาจจะทำให้สถานการณ์การะบาดรุนแรงยิ่งขึ้น ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันอุดมศึกษา และกระทรวงสาธารณสุข โดยให้กระทรวงเกษตรฯ เป็นแกนหลัก
ส่วนประเด็นที่ 3. คือ การกำหนดรูปแบบและมาตรการในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจ ไม่ตื่นตระหนก ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ โดยให้กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยวเป็นแกนหลัก
ประเด็นที่4 คือการตั้งคณะทำงานบูรณาการการจัดการเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักๆ เช่นร้านเกมส์ ราชทัณฑ์ หอพัก โรงเรียน ค่ายทหาร โรงงาน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนหลัก โดยจะมีการประชุมติดตามผลในอีก 2 สัปดาห์ และจะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ต่อไป เพื่อให้มีผลทางการปฏิบัติโดยเร็วที่สุด นายแพทย์ไพจิตร์กล่าว
View 11
03/09/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ