พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งปีนี้เน้นคุณค่าสมุนไพรต้านภัยไข้หวัด จัดระหว่างวันที่ 2 – 6 กันยายน 2552 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี คาดมีประชาชนเข้าชมวันละไม่ต่ำกว่า 30,000 คน วันนี้ (3 กันยายน 2552) เวลา 15.30 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ข้าราชการ และคณะกรรมการจัดงานฯ เฝ้ารับเสด็จ นายวิทยา กราบทูลรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ร่วมกับองค์กรภาครัฐและเอกชน จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์ความรู้การแพทย์ 3 ระบบ ที่มีรากฐานที่มาทางด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่แตกต่างกันตามภูมิภาค ศาสนา สังคม และความเชื่อ ได้แก่ การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนไทย ซึ่งถูกละทิ้งขาดการพัฒนามานานกว่า 60 ปี และการแพทย์ทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมของคนทั่วโลก ให้สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาสุขภาพคนไทยในปัจจุบันและอนาคต ควบคู่กับระบบบริการการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์ชาติพัฒนาการแพทย์ทั้ง 3 ระบบให้เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นที่ยอมรับด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัยในระดับสากล ระหว่าง พ.ศ. 2550-2554 ใช้งบประมาณดำเนินการทั้งหมด 2,364 ล้านบาท ประกอบด้วย การสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ การพัฒนาระบบสุขภาพ การพัฒนากำลังคน การพัฒนายาไทยและยาสมุนไพร รวมทั้งการคุ้มครองภูมิปัญญาไทย ไม่ให้ตกเป็นผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม สำหรับงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ทั่วโลกและไทยกำลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงจัดงานภายใต้แนวคิด “พืชผักสมุนไพร สร้างเศรษฐกิจไทย ต้านภัยไข้หวัด” เพื่อชูคุณค่าของผักพื้นบ้าน สมุนไพร อย่างต่ำ 13 ชนิด ที่สามารถป้องกันการเป็นหวัดและบรรเทาอาการเมื่อเป็นหวัด โดยสมุนไพร ผักพื้นบ้าน ที่บำรุงสุขภาพ เสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อไข้หวัด สามารถรับประทานในรูปของอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ ฝักมะรุม ยอดมะยม ยอดสะเดา มะระขี้นก ฟักข้าว พลูคาวหรือคาวตอง กระเทียม ขิง กระเพรา ตะไคร้ เห็ดหลินจือ ชาปัญจขันธ์ ชาเขียว ชาใบหม่อน ขิง ตะไคร้ กระเจี๊ยบ ใบเตย เป็นต้น ส่วนสมุนไพรที่บรรเทาอาการเมื่อเริ่มจะเป็นหวัด คือมีน้ำมูก เจ็บคอ ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายได้เป็นอย่างดี จะช่วยลดไข้ บรรเทาอาการเจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยให้รับประทานคู่กับยาพาราเซตตามอล ทุก 6 ชั่วโมง ในรูปของแคปซูล ครั้งละ 3-4 แคปซูล หรือประมาณ 1.6 กรัม วันละ 4 เวลาหลังอาหารและก่อนนอน ติดต่อกันไม่เกิน 7 วัน หรือใช้ใบสด 1 กำมือต้มกับน้ำนาน 10 – 15 นาที ดื่มวันละ 3 เวลา งานดังกล่าวจัดระหว่างวันที่ 2 – 6 กันยายน 2552 กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การฝึกอบรมระยะสั้นด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ฟรี จำนวน 21 หลักสูตร อาทิ การทำโลชั่นรำข้าว การสกัดน้ำมันรำข้าวในครอบครัว เทียนอบข้าวสาร สบู่รำข้าว/สมุนไพร โยคะเพื่อสุขภาพ การทำผลิตภัณฑ์โฮมสปา เป็นต้น ลานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ สวนสาธิตสมุนไพร ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จให้บริการปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการทำสารสกัดและการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์สมุนไพรใหม่ อาทิ การผลิตแชมพูกำจัดเห็บสุนัขจากเมล็ดกะเบาและเมล็ดน้อยหน่า การพัฒนาสูตรข้าวเกรียบมอญของชุมชน จากสูตรดั้งเดิมเพิ่มอีก 3 สูตร ได้แก่ สูตรกระเทียม ตะไคร้ และจตุผลาธิกะ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และสมุนไพรจากเครือข่ายภาครัฐและเอกชนกว่า 250 ร้าน และบริการนวดเพื่อสุขภาพ ฟรี/ราคาถูก คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานวันละประมาณ 30,000 คน ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ประทานพระดำรัสเปิดงานความว่า ขอชื่นชมที่กระทรวงสาธารณสุขและองค์กรต่างๆ ได้จัดงานครั้งนี้ขึ้น ซึ่งทำให้ประชาชน บุคลากรสาธารณสุข นักวิชาการ หมอพื้นบ้าน หมอแพทย์แผนไทย ได้มีโอกาสเผยแพร่ รับรู้องค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก รวมทั้งสมุนไพร อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนไทยต่อไป จากนั้นเสด็จไปยังลานนิทรรศการกลาง ภายในอาคาร 7-8 ทอดพระเนตรนิทรรศการกลาง “พืชผักสมุนไพร สร้างเศรษฐกิจไทย ต้านภัยไข้หวัด” บู้ทกิจกรรมของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ กิจกรรมเด็กพิการ ลานวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ สวนสมุนไพรของมหาวิทยาลัยมหิดล ลานผักและแปลงผัก กิจกรรมกลุ่มประเทศอาเซียน+4 โครงการพิเศษสวนเกษตรเมืองงาย ในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สถาบันการแพทย์ไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถาบันการแพทย์แผนไทย และองค์การเภสัชกรรม ************************************* 3 กันยายน 2552


   
   


View 9       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ