สธ.แจงงบเมกะโปรเจกต์ ต้องใช้เพราะจำเป็นจริง เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างสถานพยาบาล

กระทรวงสาธารณสุข แจงเรื่องงบเมกกะโปเจกต์ ยันมีความจำเป็นต้องใช้งบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะอาคารโรงพยาบาลต่างๆ เพราะขาดการพัฒนามานานกว่า 10 ปี ส่วนการซื้อเครื่องช่วยหายใจ 244 เครื่องเป็นการจัดซื้อตามความต้องการใช้งานของโรงพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศตามปกติ ตามที่มีการเสนอข่าวแพทย์หญิงเชิดชู อริยศรีวัฒนา ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่าวงการแพทย์มีความเป็นห่วงงบประมาณโครงการเมกะโปรเจกต์ 30,000 ล้านบาท ของกระทรวงสาธารณสุข ว่าอาจจะมีการนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม ไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของประชาชน เช่น การสร้างตึกโรงพยาบาล การจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลชุมชน ทั้งๆที่หลายแห่งไม่มีห้องไอซียูและไม่ได้รักษาผู้ป่วยหนัก หรือจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ราคาแพงให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงเป็นผู้วางแผนและกำหนดคุณลักษณะ ซึ่งบางแห่งอาจไม่มีความจำเป็น ทำให้เป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่านั้น นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เดิมกว่า 10 ปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้รับงบประมาณด้านการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานปีละไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันงบประมาณปกติเหลือปีละไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ทำให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการจัดบริการประชาชนของแต่ละโรงพยาบาลต้องชะลอตัวลง หรือบางแห่งต้องหยุดชะงักมาเป็นเวลานาน ทำให้มีปัญหาเรื่องความแออัดในการให้บริการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้รับบริการโดยตรง ดังนั้น เมื่อรัฐบาลได้จัดงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสถานบริการทุกระดับ ทั้งโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ และศูนย์การรักษาเฉพาะทาง โดยเป็นโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2-SP2) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงบในการก่อสร้างอาคารบริการของโรงพยาบาลต่างๆ ทั้ง 76 จังหวัด เพื่อปรับปรุงและขยายพื้นที่บริการ รองรับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้น และแก้ปัญหาความแออัดในการให้บริการที่สะสมต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน สำหรับการจัดหาครุภัณฑ์เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งอยู่ในโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 เช่นกันนั้น สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รวบรวมข้อมูลความต้องการจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งในปี 2553-2555 พบว่ามีความต้องการเพียง 244 เครื่อง ซึ่งเป็นความต้องการตามปกติ วงเงินเพียง 300 ล้านบาทเท่านั้น แต่ในปี 2553 มีปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แพร่ระบาด กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ของบกลางจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจเพิ่มอีก 175 เครื่อง เพื่อให้เพียงพอรองรับการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ***************************** 15 สิงหาคม 2552