ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้วัยรุ่นไทยอายุ 12-19 ปี ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน น่าห่วง โดยผลการศึกษาพบว่าเด็กวัย 14-16 เป็นกลุ่มเสี่ยงสารพัดปัญหาสังคมสูงที่สุด เนื่องจากเป็นวัยที่ร่างกาย-อารมณ์ถูกผลกระทบจากฮอร์โมนเพศ ชี้ขณะนี้พบว่าหญิงตั้งครรภ์ของไทยร้อยละ 13 มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งอาจมีปัญหาตามมาอีกเช่น มะเร็งปากมดลูก ปัญหาครอบครัว รวมทั้งสุขภาพเด็กในหลายมิติ แนะทุกครอบครัวให้วัคซีนใจแก่ลูกตั้งแต่ยังเล็ก จะป้องกันปัญหาได้ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศฺวิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการสัมมนาเรื่องเปิดประตูบ้านใหม่ เอาใจใสเยาวชน ที่โรงแรมมิราเคิล กทม. จัดโดยกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ(UNFPA) กรมอนามัย และ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อร่วมมือกันแก้ไขและสร้างความเข้าใจวัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ แก้ไขค่านิยมวัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศที่ผิดๆ เป็นเหตุให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การทำแท้ง การติดเชื้อเอชไอวี การติดเชื้อหนองใน นอกจากนี้พ่อแม่ยังขาดความรู้ ความเอาใจใส่ในตัววัยรุ่น ทำให้เกิดช่องว่าง ส่งผลให้ปัญหาพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นบานปลายได้ นายแพทย์ปราชญ์กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มวัยรุ่นอายุ 10-24 ปี เป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากถึงร้อยละ 25 ของประชากรทั้งหมด กำลังเป็นวัยที่บริสุทธิ์ จะต้องเร่งปลูกฝังพฤติกรรมและวัฒนธรรมที่ดีในการใช้ชีวิต เพื่อเป็นอนาคตที่ดีของประเทศ โดยเฉพาะครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยสังคมที่เล็กที่สุดแต่มีความสำคัญต่อเด็กมาก ต้องให้ความรักความอบอุ่นและข้อชี้แนะให้วัยรุ่นก้าวเดินในทิศทางที่ถูกต้อง หรือทีเรียกว่าวัคซีนใจลูกหลาน เนื่องจากเด็กวัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและอารมณ์อันเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่ผ่านมาจากการศึกษาพบว่าเด็กวัยรุ่นอายุ 14-16 ปี เป็นกลุ่มที่เกิดปัญหามากที่สุด ทั้งเรื่องสารเสพติด ปัญหาทางเพศ และอื่นๆ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นไทยที่ผ่านมา อยู่ในเกณฑ์ที่น่าห่วงมาก คาดว่าขณะนี้เยาวชนไทยอายุ 15-24 ปี กว่า 80,000 คน ติดเชื้อเอชไอวี ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดยตั้งแต่ พ.ศ.2543-2546 มีผู้หญิงที่เข้ารักษาด้วยอาการแทรกซ้อนจากอาการแท้งลูกในโรงพยาบาลรัฐ 787 แห่ง จำนวน 45,990 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงอายุต่ำกว่า 24 ปีเข้ารักษาร้อยละ 47 และคาดว่าแต่ละปีจะมีเยาวชนหญิงทำแท้งมากถึงปีละ 300,000 คน หรือวันละประมาณ 1,000 คน นายแพทย์ปราชญ์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงไทยร้อยละ 13 ที่อายุน้อยกว่า 19 ปี ที่แต่งงานและมีบุตรเร็ว ซึ่งผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนอายุ 19 ปี จะมีความเสี่ยงต่ออาการแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์มาก เช่น การคลอดก่อนกำหนด เป็นโรคโลหิตจาง โรคมะเร็งปากมดลูก และผู้หญิงมีโอกาสติดโรคทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งโรคเอดส์สูงกว่าผู้ชาย 5 เท่าตัว เนื่องจากลักษณะทางกายภาพและสังคม ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากกว่าผู้ชาย รวมถึงได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ง่ายกว่า โดยข้อมูลทางการแพทย์พบว่าการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ 1 โรค หรือมากกว่า จะเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี 2-9 เท่าตัว ขณะที่จากการสำรวจพบว่ามีวัยรุ่นเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ************************************* 7 ธันวาคม 2549


   
   


View 8    07/12/2549   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ