รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยกระทรวงสาธารณสุขภูฏาน เชื่อมั่นความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทย ขอความร่วมมือส่งผู้เชี่ยวชาญของไทยเป็นที่ปรึกษาการจัดตั้งวิทยาลัยทางการแพทย์และพยาบาล รวมทั้งดูแลด้านการศึกษาของบุคลากรสาธารณสุขภูฏานในไทย โดยเฉพาะแพทย์ พยาบาล ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลัง ฯพณฯ ลีออนโป แซงลีดุกปา (H.E. Lyonpo Zangley Dukpa) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศภูฎาน เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับประเทศไทย ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี เช้าวันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2552) ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขภูฎาน ซึ่งเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง หลังประเทศภูฎานเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบพระมหากษัตริย์มาเป็นประชาธิปไตย ได้ขอความร่วมมือ 2 เรื่อง คือ 1.ประสานให้นักศึกษาแพทย์ของภูฎานที่กำลังศึกษาในโรงเรียนแพทย์ของไทย ประมาณ 20 คน ได้ศึกษาต่อจนจบแพทย์เฉพาะทาง จากโรงพยาบาลระดับแนวหน้าของไทย เช่น รพ.พระมงกุฎเกล้า รพ.จุฬาลงกรณ์ 2. ออกใบประกาศนียบัตรรับรองให้กับแพทย์ที่จบการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประสานกับโรงพยาบาลต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ประเทศไทยและภูฎาน มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกันมาก ประชาชนทั้ง 2 ประเทศจึงมีความผูกพันใกล้ชิดกัน การที่ประเทศภูฎานขอความร่วมมือมา เนื่องจากเห็นว่าไทยมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างมาก ซึ่งไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือสนับสนุนตามที่ขออย่างเต็มที่ และยินดีที่จะสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพวิทยาลัยพยาบาลของประเทศภูฏาน โดยการส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำปรึกษาแนะนำ รวมทั้งรับบุคลากรสาธารณสุข แพทย์ พยาบาลจากภูฏาน มาอบรมพัฒนาความรู้ในหลักสูตรต่าง ๆ ของสถาบันพระบรมราชชนก ทั้งหลักสูตรระยะสั้น และระยะยาว
โดยที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2543 อาทิ รับนักศึกษาภูฎานศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตหลักสูตร 4 ปี จำนวน 8 คน จัดอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขระยะสั้นในหลักสูตรต่างๆ และเป็นที่ศึกษาดูงาน รวมทั้งจัดอบรมการพยาบาลเฉพาะทางระยะสั้นนานาชาติ ใน 9 หลักสูตร ได้แก่ การพยาบาลผู้ใหญ่ในภาวะวิกฤต การพยาบาลเด็กในภาวะวิกฤต การพยาบาลแม่และเด็ก การพยาบาลออร์โธปิดิก การพยาบาลหู คอ จมูก การพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง การพยาบาลทารกภาวะวิกฤต และการให้คำปรึกษา โดยจัดเป็นประจำทุกปี ขณะนี้มีพยาบาลได้รับการอบรมไปแล้ว 56 คน
**************************************** 25 กุมภาพันธ์ 2552
View 17
25/02/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ