สธ.เผยผลสำรวจเอแบคโพลล์พบวัยรุ่นไทยกว่า70%มีพฤติกรรมเจ้าปัญหาคนละเกือบ 2 อย่าง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจเยาวชนไทยทั่วประเทศร้อยละกว่า 70 มีพฤติกรรมเจ้าปัญหาอย่างน้อยคนละเกือบ 2 อย่างจาก 9 อย่าง เร่งแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และตัวบุคคล ลดปัญหาสังคมวัตถุนิยม ผลการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ทุกวันเสาร์กว่า 6 เดือน พบวัยรุ่นใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มากขึ้นถึงร้อยละ 96 เกิดแรงจูงใจอยากทำดีเพื่อสังคมและประเทศชาติร้อยละ 93 วันนี้ (25 พฤศจิกายน 2549) ที่ลานนันทนาการ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานปิดโครงการวันเสาร์เยาวชนสร้างสรรค์ตามรอยเท้าพ่อ ซึ่งได้น้อมนำต้นแบบดังเช่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนพัฒนาตนเอง ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน พร้อมมอบรางวัลแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเยาวชน เครือข่าย เยาวชน และเยาวชนที่มีความสามารถด้านต่างๆตามแนวทางพระอัจฉริยภาพของพระบาทสามเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ ด้านดนตรี ด้านกีฬา ด้านสังคมในหัวข้อเรื่อง จิตอาสาทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ด้านศิลปะ และด้านวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการประกวดศิลปะผืนผ้าแห่งความดี รวมทั้งหมด 99 รางวัล นายแพทย์มงคล กล่าวว่า จากผลการสำรวจเยาวชนจำนวน 4,645 คนทั่วประเทศในปี 2547 ของเอแบคโพลล์(ABAC Poll) พบวัยรุ่นไทยถึงร้อยละ 71 มีปัญหาอย่างน้อย 1 อย่างใน 9 ปัญหาพฤติกรรม ได้แก่ สูบบุหรี่ ดื่มสุรา เที่ยวสถานบันเทิง เล่นการพนัน เสพยาเสพติด ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีเพศสัมพันธ์ ทะเลาะวิวาท และคิดฆ่า ตัวตาย โดยภาพรวมเฉลี่ยมีปัญหาคนละเกือบ 2 ปัญหาต่อคน การแก้ปัญหาดังกล่าวต้องทำทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การป้องปรามปัจจัยเสี่ยงต่างๆทั้งเหล้า บุหรี่ การพนัน สถานเริงรมย์ เกม อินเตอร์เน็ตที่ไม่สร้างสรรค์ และด้านบุคคล เช่น การพัฒนาเยาวชน ครอบครัว ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อลดปัญหาสังคมวัตถุนิยมซึ่งจะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร นายแพทย์มงคล กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ 4 องค์กรหลัก ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนเสริมสร้างสุขภาพ(สสส.)ได้ร่วมกันจัดทำโครงการ วันเสาร์เยาวชนสร้างสรรค์ตามรอยเท้าพ่อภายใต้โครงการ 60 ปี 60 ล้านความดีเริ่มที่เยาวชน มาตั้งแต่ 3 มิถุนายน 2549 เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีเยาวชนและครอบครัวเข้าร่วมงานสัปดาห์ละ 1,500 - 3,000 คน รวมประมาณ 39,000 - 78,000 คน พบว่าส่วนใหญ่พอใจและได้รับประโยชน์ในด้านการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ถึงร้อยละ 96 รองลงมาคือ การเห็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตร้อยละ 95 เกิดแนวคิดใหม่ๆร้อยละ 94 และเกิดแรงจูงใจอยากทำดีเพื่อสังคมและประเทศชาติร้อยละ 93 นับเป็นโครงการที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเกิดกระแสการพัฒนาตนเองอย่างสร้างสรรค์ และเกิดกระแสการเปิดโอกาส เปิดพื้นที่ทางสังคมให้เยาวชนได้พัฒนาตนเองในหมู่สังคมวงกว้าง คาดว่าโอกาสต่อไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คงจะร่วมมือกันผลักดันให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต นายแพทย์มงคล กล่าว