วันนี้ (23 พฤษภาคม 2567) นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบัน พบการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเห็นได้จากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของบุหรี่ไฟฟ้าที่เลียนแบบของเล่นเด็ก ของใช้หรือของกินที่เด็กและเยาวชนนิยมหรือคุ้นเคย รวมถึงการใส่สารปรุงแต่งกลิ่น และรสชาติในบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อดึงดูดความสนใจให้อยากทดลองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า ตลอดทั้งการสร้างการรับรู้ที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งทำให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อจากกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย

          เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนมิให้ตกเป็นเหยื่อของธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า และไม่ยุ่งเกี่ยวหรืออยากทดลองใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีสารพิษ เสพติดและอันตราย จึงขอแนะนำผู้ปกครองเกี่ยวกับ 4 วิธีสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานที่อาจมีการใช้หรือสูบบุหรี่ไฟฟ้า ดังต่อไปนี้

          1) มีกลิ่นหอมติดตัวโดยหาต้นตอของกลิ่นไม่ได้

          2) ใช้เงินมากขึ้นกว่าปกติ หรือซื้อของที่ไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร

          3) พบผลิตภัณฑ์ หรืออุปกรณ์การเรียนที่ไม่คุ้นเคยในกระเป๋าหรือในห้องนอน เช่น ปากกา หรือแฟลชไดร์ฟ

          4) สังเกตอาการผิดปกติของบุตรหลาน เช่น​ ไอ​ เจ็บคอ ปวดศีรษะ​ คลื่นไส้​ อาเจียน รวมถึงอาการกระวนกระวาย​ หงุดหงิดง่าย อารมณ์ฉุนเฉียว ซึ่งเป็นผลมาจากการติดนิโคติน

          นายแพทย์ธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานอย่างใกล้ชิดแล้ว ผู้ปกครองควรเฝ้าระวัง พูดคุยแนะนำ หรือให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่บุตรหลานในครอบครัวเกี่ยวกับโทษพิษภัย อันตราย และผลกระทบของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นการสร้างเกราะป้องกันตนเองจากบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยการไม่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าในบ้าน เพื่อป้องกันสมาชิกในครอบครัวไม่ให้ได้รับไอหรือควันจากบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเพื่อการเป็นต้นแบบที่ดีแก่บุตรหลานด้วยการไม่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค โทร 0 2590 3850

 

                                                                        ***************************

ข้อมูลจาก : กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค

วันที่ 23 พฤษภาคม 2567

 

อ้างอิง

  1. Nebraska Medicine. 7 signs your teen may be vaping. (2022, September 16). Retrieved from https://www.nebraskamed.com/primary-care/7-signs-your-teen-may-be-vaping.
  2. Barton K.E., Bistany C. (2020). Is My Child Vaping? Five Warning Signs to Watch For. Retrieved from https://www.zeptive.com/post/5-warning-signs-your-child-may-be-vaping.


   
   


View 181    23/05/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ