กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก แนะนำ Application TBVDOT สำหรับผู้ป่วยวัณโรค ติดตามการกินยารักษาโรค ได้ด้วยตนเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยดูแล เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสหายจากวัณโรค

                แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วัณโรคเป็นโรคติดต่อ เกิดได้
กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่น ต่อมน้ำเหลือง ผิวหนัง กระดูก แต่พบมากที่ปอด สำหรับการติดเชื้อวัณโรคนั้น ติดต่อผ่านทางเดินหายใจจากผู้ป่วยที่ไอหรือจาม โดยไม่ปิดปาก
เชื้อวัณโรคจะปะปนออกมากับละอองเสมหะ
หรือน้ำลาย หากผู้ที่อยู่ใกล้ชิดสูดรับเชื้อเข้าไป จะมีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคได้ โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน โรคตับ หรือโรคไต หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกันนานๆ (สเตรียรอยด์) จะมีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

                นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยวัณโรค สามารถ
หายจากโรคได้ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษา โดยผู้ป่วยต้องรับประทานยาตามแผนการรักษาต่อเนื่องจนครบ
 อย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากต้องใช้เวลาในการรักษาและรับประทานยาเป็นจำนวณมาก อาจทำให้ผู้ป่วยเกิด
ความสับสน เบื่อหน่าย และเมื่อทานยาจนพบว่าอาการดีขึ้นแล้วจึงหยุดทานยาเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะ
การขาดยา หรือรับประทานไม่ต่อเนื่อง จะทำให้เชื้อวัณโรคดื้อยา ทำให้ยากต่อการรักษาและต้องใช้เวลา
ในการรักษานานขึ้น อาจแพร่เชื้อวัณโรคดื้อยาสู่ผู้อื่นได้

       สถาบันโรคทรวงอกจึงได้มีการจัดทำ Application TBVDOT (Video directly observed therapy)
สามารถติดตามการทานยาของผู้ป่วยได้ด้วยตนเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยดูแล ข้อดี คือ มีเจ้าหน้าที่
ช่วยดูการรับประทานทานยาของผู้ป่วยว่าถูกต้อง ครบถ้วนหรือไม่ ผู้ป่วยสามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรค ส่งภาพถ่ายของตนเองเพื่อประเมินอาการแพ้เบื้องต้นหรือผลข้างเคียง
ของการรับประทานยา รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลย้อนหลังการรับประทานยาของตัวเอง ส่งผลให้การรักษา
มีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสหายจากวัณโรคได้

 

*********************************************************************

-ขอขอบคุณ- #วัณโรค #สถาบันโรคทรวงอก #กรมการแพทย์   15 พฤษภาคม 2567



   
   


View 233    15/05/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ