กรมอนามัย ยกระดับมาตรฐานทีม SEhRT ซ้อมเข้มปฏิบัติการรับมือภาวะฉุกเฉิน

กรมอนามัย ยกระดับมาตรฐานทีม SEhRT ทุกพื้นที่ทั่วไทย จำลองสถานการณ์ฝึกซ้อมเข้มการปฏิบัติภารกิจในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข เน้นย้ำให้ทุกศูนย์อนามัย สร้างทีม SEhRT ที่มีความเชี่ยวชาญสูงสุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน

              นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2566 จนถึงปัจจุบันหลายพื้นที่เกิดสถานการณ์ภาวะฉุกเฉิน และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีความหลากหลาย และรุนแรงมากขึ้น เช่น น้ำท่วมดินโคลนถล่ม ภัยความร้อน ไฟไหม้ป่า ฝุ่นละออง ภัยจากกิจกรรมและสถานประกอบการ เช่น โรงงานพลุระเบิดไฟไหม้บ่อขยะ การรั่วไหลของสารเคมี น้ำมันรั่วในทะเล และโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันในสถานที่ต่าง ๆ อาทิ โรงเรียน สถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็ก เป็นต้นกรมอนามัยให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมการจัดการสุขาภิบาลและการจัดการด้านสุขอนามัยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจได้รับการปกป้องคุ้มครองสุขภาพสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และไม่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากภาวะฉุกเฉิน 

              นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อไปว่า จากแนวโน้มของการเกิดภัยพิบัติดังกล่าว ทีม SEhRT ของกรมอนามัยจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมรับมือทั้งด้านกำลังคน ทักษะทางวิชาการ แผนงาน และแนวปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกระดับทั้งส่วนกลาง และศูนย์อนามัย เพื่อให้การลงพื้นที่ปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้มอบหมายเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน และรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ กรมอนามัยจึงกำหนดให้มีการฝึกซ้อมการปฏิบัติภารกิจรองรับภาวะฉุกเฉินสำหรับทีม SEhRT ขึ้น โดยใช้กระบวนการของ Table Top Exercise ภายใต้สถานการณ์จำลอง ซึ่งมีความเป็นสากล มีหลายหน่วยงานเลือกใช้อย่างแพร่หลาย และเลือกสถานการณ์จำลองภาวะฉุกเฉินจากกรณีอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และโรงงานผลิตน้ำแข็งเกิดสารเคมีรั่วไหล ซึ่งมีแนวปฏิบัติด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (Emergency Flowchart) ที่กรมอนามัยพัฒนาเพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินการฝึกซ้อม

              “ทั้งนี้ จากผลการฝึกทำให้กรมอนามัยมองเห็นข้อจำกัด ข้อท้าทายของทีม SEhRT ในการปฏิบัติภารกิจ รวมทั้งมีการถอดบทเรียน แลกเปลี่ยน และมีข้อเสนอแนะร่วมกัน เพื่อให้ทุกทีมจากแต่ละหน่วยงานมีแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งนำข้อมูลที่ได้จากการถอดบทเรียน และข้อคิดเห็นต่าง ๆ จะนำมาประมวลผล วิเคราะห์ และทบทวนกระบวนการทำงานของทีม SEhRT ใหม่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานต่อไป ซึ่งการฝึกซ้อมแนวปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการเตรียมพร้อมทีมปฏิบัติการ SEhRT กรมอนามัยจึงกำหนดให้ทุกศูนย์อนามัย และสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมืองนำรูปแบบ และกระบวนการฝึกซ้อมการปฏิบัติการรองรับภาวะฉุกเฉินไปประยุกต์ใช้สำหรับการฝึกซ้อมกับสถานการณ์ตามบริบทของจังหวัด ในความรับผิดชอบของ
ทุกศูนย์อนามัย อาจฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่เพื่อเป็นการสร้างกลไกการทำงานร่วมกัน ทำให้เข้าใจ รับรู้แนวปฏิบัติ สามารถปฏิบัติการตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานได้อย่างชัดเจนมากขึ้น” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

กรมอนามัย / 24 กุมภาพันธ์ 2567