“หมอชลน่าน” ประชุม คกก.อำนวยการฯ ขับเคลื่อน 30 บาทอัพเกรด ที่มีทั้งกลาโหม กทม.และ สธ. เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการฯ เดินหน้า 3 ประเด็น รพ.กทม. 50 เขต 50 รพ. ให้จัดทำ MOU เพิ่มการเข้าถึงบริการ รพ.เขตดอนเมือง, 30 บาทรักษาทุกที่ รุกเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยบริการสังกัดกลาโหมในเฟสสอง และใช้ค่ายทหารบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช/ยาเสพติด พร้อมจัดทำ 1 จังหวัด 1 ค่ายทหารสุขภาพดี

      วันนี้ (16 มกราคม 2567) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการประสานความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ (30 บาทอัพเกรด) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พลเรือเอก สุพพัต ยุทธวงศ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกรุงเทพมหานคร เข้าร่วม

      นพ.ชลน่านกล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งแรก หลังจากได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 โดยมีตนและนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นที่ปรึกษา และมี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการฯ ชุดนี้แต่งตั้งขึ้นเพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือการทำงานระหว่างกระทรวงกลาโหม กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ของรัฐบาล โดยที่ประชุมได้เห็นชอบการจัดตั้งคณะอนุกรรมการฯ 3 คณะ เพื่อประสานความร่วมมือขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.นโยบายโรงพยาบาลกรุงเทพมหานคร 50 เขต 50 โรงพยาบาล และปริมณฑล มี นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อจัดทำแนวทางบริหารและพัฒนาหน่วยบริการที่ใช้ที่ดินในเขตพื้นที่ทหาร รวมถึงแนวทางพัฒนาระบบบริการรองรับนโยบายนี้ โดยจะมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ รพ.ประจำเขตดอนเมือง คือ รพ.ทหารอากาศ (สีกัน) ให้แล้วเสร็จใน 60 วัน หรือวันที่ 15 มีนาคม 2567

       นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า 2.การขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว มี นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อบูรณาการความร่วมมือ จัดทำแนวทางเชื่อมโยงระบบข้อมูล รวมถึงกำกับติดตาม แก้ไขปัญหาอุปสรรคการขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ซึ่งจะมีการเดินหน้าระยะที่สองในอีก 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา โดยหน่วยบริการสังกัดกระทรวงกลาโหมจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและการบริการได้มากขึ้น และ 3.ระบบการดูแลสุขภาพจิต/ยาเสพติด ค่ายทหารสุขภาพดี และการจัดระบบบริการทางการแพทย์ร่วมกันในเขตสุขภาพ (One Region One Hospital) มี นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน โดยใช้สถานที่ในค่ายทหารรองรับผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาล แต่ยังไม่พร้อมกลับสู่ครอบครัว สังคมและชุมชน โดยทหารทำหน้าที่เสมือนญาติในการดูแลเตรียมพร้อมก่อนกลับคืนสู่สังคม และใช้โรงพยาบาลค่ายและค่ายทหาร เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมบางส่วนของระบบการบำบัดรักษาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (CBTx)

        “นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์สุขภาพกำลังพลกองทัพบกประเทศไทย (2560-2564) พบว่า ความชุกของภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มจากร้อยละ 42 เป็นร้อยละ 44 อัตราความชุกโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น อาทิ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน จึงได้เห็นชอบแนวทางค่ายทหารสุขภาพดี “1 จังหวัด 1 ค่ายทหารสุขภาพดี” โดยจัดตั้งองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพในค่ายทหารทั่วประเทศ ส่งเสริม ป้องกัน และรักษาโรค โดยใช้ระบบประเมิน ปรับเปลี่ยน ติดตาม รักษาตามหลักของเวชศาสตร์วิถีชีวิต และสร้างสิ่งแวดล้อมภายในค่ายทหารเพื่อเอื้อต่อสุขภาวะที่ดี” นพ.ชลน่านกล่าว

 ***************************** 16 มกราคม 2567



   
   


View 2932    16/01/2567   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ