สาธารณสุขเผยเด็กและผู้หญิงถูกกระทำรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในปี 2550เหตุเกิดเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 ราย และถูกส่งเข้ารับบริการที่ศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาลใหญ่ทั่วประเทศเกือบ20,000 ราย กว่าครึ่งเป็นเด็ก พบในเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย 3-4 เท่าตัว ปัญหาในผู้ใหญ่พบถูกทุบตีมากสุด ในเด็กถูกละเมิดทางเพศมากสุด ในปี 2552 เร่งขยายบริการของศูนย์พึ่งได้ ลงถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอ 729 แห่งทั่วประเทศและนำร่อง 4 สถานีอนามัย
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ทุกปี องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีสากลและเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมต่อต้านการทารุณล่วงละเมิดสตรีเพศ ต้องยอมรับว่าขณะนี้ความรุนแรงในเด็กและสตรี เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันในสังคมไทยนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น จากสถิติการให้บริการของศูนย์พึ่งได้ ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ประจำจังหวัดทั่วประเทศ 297 แห่ง ในปี 2550 มีเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรงเข้ารับบริการจำนวน 19,068 ราย เฉลี่ยวันละ 52 ราย หรือชั่วโมงละเกือบละ 2 ราย เป็นหญิงอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 9,470 ราย ที่เหลือเป็นเด็กจำนวน 9,598 ราย ซึ่งสถิติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากปี 2548 มีผู้หญิงและเด็กถูกทำร้ายเฉลี่ยวันละ 32 ราย เท่านั้น
นายวิชาญกล่าวต่อว่า ในกลุ่มเด็กที่ถูกทำร้าย พบว่าเป็นเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย 3-4 เท่าตัว ส่วนปัญหา ที่พบในกลุ่มเด็กอันดับ 1 คือการถูกละเมิดทางเพศ พบร้อยละ 64 และยังพบปัญหาจากสื่อลามกได้ร้อยละ 2 ส่วนการบาดเจ็บในกลุ่มผู้หญิงที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มักถูกทุบตี ผู้ทำร้ายเป็นผู้ใกล้ชิด เช่นแฟน สามี สาเหตุเกิดจากนอกใจ หึงหวง เมาสุรามากที่สุด ที่น่าสังเกตในปี 2550 มีผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง 109 ราย ซึ่งผลกระทบของความรุนแรงทำให้เกิดความสูญเสียทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 36,000 ล้านบาทต่อปี
นายวิชาญกล่าวต่อไปว่าสถิติที่พบครั้งนี้เชื่อว่ายังต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากความรุนแรงในเด็กและผู้หญิงกว่าร้อยละ 80 เกิดในครอบครัว ซึ่งสังคมไทยยังมีความเชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรเปิดเผยให้ใครทราบ และเด็กมักตกเป็นเหยื่อความรุนแรงได้ง่าย เพราะไม่รู้เท่าทันผู้ใหญ่ ไม่มีประสบการณ์ป้องกันตัวเอง และเด็กมักจะถูกขู่ไม่ให้บอกใคร หรือครอบครัวไม่ยอมให้เปิดเผยเพราะกลัวอับอาย จึงต้องเร่งกระตุ้นให้สังคมไทยเกิดความตระหนัก และร่วมกันแก้ไขป้องกัน
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ได้เปิดศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศแล้ว เปิดรับแจ้งทางหมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง ในปี 2552 มีนโยบายจะขยายบริการศูนย์พึ่งได้ไปยังโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศจำนวน 729 แห่ง และนำร่องขยายลงระดับสถานีอนามัยบางจังหวัด ตั้งเป้าครอบคลุมสถานีอนามัยทั่วประเทศ ภายในปี 2555 ซึ่งจะทำให้ระบบการทำงานเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือเด็ก สตรี ที่ถูกกระทำรุนแรงให้ทันท่วงทีมากขึ้น
ทางด้านนายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนฯได้จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกกระทำรุนแรงในเครือข่ายระดับจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่มารับบริการแบบครบวงจร 4 ด้าน ได้แก่ การให้บริการการแพทย์ ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านกฎหมาย รวมทั้งการประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบำบัดฟื้นฟูในระยะยาวตามสภาพปัญหา
สำหรับทิศทางจะดำเนินการในปี 2552 ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะขยายระบบการช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรงลงในระดับตำบล จะนำร่องใน 4 ตำบลใน 4 จังหวัดได้แก่ ปทุมธานี ขอนแก่น ชุมพร และเชียงใหม่ เพื่อสร้างเครือข่ายระบบการดูแลช่วยเหลือและส่งต่อระหว่างสถานพยาบาลอย่างเป็นระบบ
มีมาตรฐานและครอบคลุมทั้งจังหวัด นอกจากนี้จะจัดทำฐานข้อมูลความรุนแรงในเด็กและสตรี การพัฒนา องค์ความรู้ด้านนิติเวชแก่บุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ในการเก็บวัตถุพยาน รวมทั้งการส่งต่อวัตถุพยานเพื่อช่วยเหลือทางด้านการแพทย์และคดี
ทั้งนี้ หากพบเด็กหรือสตรีถูกทำร้าย หรือพบเห็นเหตุการณ์ที่มีการทำร้ายรุนแรงเกิดขึ้นให้โทรแจ้งไปที่ 1669 ทันทีมีรถพยาบาลออกปฏิบัติการนำผู้ป่วยไปส่งต่อยังโรงพยาบาลเครือข่ายที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุที่สุดภายในเวลา 15 นาที
********************** 25 พฤศจิกายน 2551
View 14
25/11/2551
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ