กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำถึงประโยชน์ของสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก (สมุดสีชมพู) คู่มือสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง แนะให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในเล่ม เพราะนอกจากจะเป็นสมุดบันทึกการรับวัคซีนพื้นฐานแล้ว ยังเป็นคู่มือบันทึกสุขภาพของคุณแม่ขณะฝากครรภ์และบันทึกข้อมูลของลูกหลังคลอดและมีข้อมูลสำหรับการส่งเสริมการเจริญของเติบโตลูกน้อย ทั้งทางร่างกายและจิตใจและการให้ข้อมูลความรู้สำหรับการดูแลตนเองและลูกน้อยอีกด้วย

นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีในโลกโซเชียลมีการส่งต่อข้อมูลไม่ควรให้ลูกฉีดวัคซีนในเล่มสีชมพู ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง ความจริงแล้ววัคซีนที่แสดงในสมุดสีชมพูเป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กจำเป็นต้องได้รับเพื่อลดอัตราการติดเชื้อโรคดังกล่าว และการเสียชีวิตของเด็กได้เนื่องจากเด็กยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะต่อสู้กับโรคได้ด้วยตนเอง และข้อมูลเรื่องวัคซีนดังกล่าวจะปรับปรุงให้ทันการระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดเพื่อมุ่งหวังให้เด็กไม่ติดโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน

นายแพทย์เอกชัย กล่าวต่อไปว่า สุขภาพแม่และเด็ก (สมุดสีชมพู) เป็นมากกว่าสมุดฉีดวัคซีนแต่มีสาระสำคัญสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองในการดูแลสุขภาพลูกน้อย เริ่มตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์ที่เข้ารับบริการฝากครรภ์ที่สถานบริการ จะมีข้อมูลบันทึกการตรวจครรภ์ การคัดกรองความเสี่ยงสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เช่น คัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ความเสี่ยงของโรคธาลัสซีเมีย ช่วยประเมินภาวะโภชนาการ  หญิงตั้งครรภ์ เปรียบเทียบค่าดัชนีมวลกาย การนับลูกดิ้น การประเมินสุขภาพจิต และบันทึกการเยี่ยมหลังคลอดสำหรับลูกน้อยจะมีแบบบันทึกเพื่อประเมินสุขภาพ ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี มีกราฟสำหรับจดบันทึกและประเมินภาวะการเจริญเติบโตและพัฒนาการ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย การประเมินความเสี่ยงฟันผุ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีข้อแนะนำด้านการเสริมพัฒนาการ การป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคไข้หวัด โรคมือ เท้า ปาก โรคอุจจาระร่วง ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญที่คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ต้องรู้ในการเลี้ยงลูก

“ทั้งนี้ ประเทศไทยเริ่มใช้สมุดสีชมพูตั้งแต่ปี 2528 และปรับปรุงทุก 3 ปี ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มอบสมุดสีชมพูแก่หญิงตั้งครรภ์ทุกคน เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพของตนเองและลูกน้อยให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์มีพัฒนาการสมวัย สร้างศักยภาพประชาชนทุกช่วงวัยให้มีสุขภาพดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้รับผิดชอบหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพของประชาชนไทย ปัจจุบัน ได้พัฒนาให้เป็นสมุดสุขภาพแบบดิจิทัลที่ได้เปิดตัวไปล่าสุด เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ง่ายมากขึ้น” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 5 ตุลาคม  2566



   
   


View 308    05/10/2566   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ