รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ห่วงภัยอันตรายพลุ ดอกไม้ไฟ พบบาดเจ็บทุกปีเฉลี่ยกว่า 400 คน สูงที่สุดในวันลอยกระทง สั่งโรงพยาบาลในสังกัดทั่วไทยเตรียมพร้อมรับมือ 24 ชั่วโมง ชี้วันลอยกระทงปี 2548 พบผู้บาดเจ็บกว่าร้อยละ 43 เมาเหล้า อายุต่ำสุดแค่ 8 ขวบ แพทย์ต้องตัดนิ้วทิ้ง 8 คน เฉียดตาบอด 43 คน ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุช่วงฉลองเทศกาลลอยกระทง ที่จะถึงในวันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2551 ว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งมีกว่า 3,000 ทีม พร้อมรถพยาบาล ซึ่งมีเครื่องมือแพทย์ช่วยชีวิตประจำรถให้พร้อม และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉิน คลังเลือด ให้พร้อมต่อการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งปัญหาที่มักพบเสมอในเทศกาลนี้ 3 เรื่อง คือ การบาดเจ็บจากการเล่นดอกไม้ไฟ หรือเล่นพลุ ประทัด จากอุบัติเหตุจราจร และการจมน้ำ หากประชาชนพบเห็นผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพ นเรนทร หมายเลข 1669 ฟรีทุกระบบ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้บาดเจ็บ ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในสังกัด 29 แห่งทั่วประเทศ ปรากฏว่าในรอบ 3 ปีมานี้ พบว่าแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บจากเหตุเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ เฉลี่ยปีละ 400 กว่าคน สูงที่สุดในวันลอยกระทง ซึ่งตรงกับเดือนพฤศจิกายน มีผู้บาดเจ็บวันเดียวมากถึง 1 ใน 3 ของผู้บาดเจ็บทั้งปี หรือประมาณ 130 คน ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจพบว่าผู้บาดเจ็บในวันลอยกระทงปี 2548 เกือบครึ่งอายุต่ำกว่า 15 ปี และเป็นนักเรียน นักศึกษา และในกลุ่มผู้บาดเจ็บดังกล่าว เมาเหล้าร่วมด้วยมากถึงร้อยละ 43 อายุต่ำสุดแค่ 8 ขวบ สูงสุดอายุ 50 ปี พบสูงสุดที่จังหวัดระยอง ร้อยละ 75 รองลงมาคือ นนทบุรี ร้อยละ 50 ชี้ให้เห็นว่าการเมาเหล้า จะทำให้ขาดสติ และมีโอกาสเสี่ยงสูงได้รับบาดเจ็บในการเล่นพลุดอกไม้ไฟ หรือจุดพลุ ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการวิเคราะห์อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดดอกไม้ไฟหรือพลุ ในวันลอยกระทงปี 2548 ส่วนใหญ่จะเกิดที่มือและข้อมือมากที่สุด ร้อยละ 53 ในจำนวนนี้ กระดูกนิ้วมือแตกละเอียดแพทย์ต้องตัดทิ้ง จำนวน 8 คน และยังมีผู้ถูกสะเก็ดพลุดอกไม้ไฟเข้าที่ตาและรอบๆ ดวงตา เยื่อตา และตาดำ เฉียดตาบอดอีก 43 คน นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ส่งเสริมให้ประชาชนเล่นดอกไม้ไฟและพลุ เนื่องจากเป็นวัตถุอันตรายอยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง ไม่ใช้ของเล่นทั่วๆ ไป โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ประชาชนต้องสอนให้ลูกหลานพึงตระหนักว่าดอกไม้ไฟหรือพลุไม่ใช่ของเล่น เป็นอันตรายสำหรับเด็ก ห้ามจุดเล่นเองเด็ดขาด และไม่ควรให้เด็กอยู่ใกล้บริเวณที่จุดพลุ ส่วนในผู้ใหญ่ หากจะเล่นต้องเล่นให้ถูกวิธีตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด คือ เล่นในโล่ง ที่ราบ อยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนหรือใบไม้แห้ง รวมทั้งห่างไกลวัตถุไวไฟต่างๆ พลุหรือดอกไม้ไฟที่จุดแล้วแต่ไม่ติดหรือไม่ระเบิด ห้ามจุดซ้ำอย่างเด็ดขาด เวลาเล่นควรเตรียมน้ำเปล่า 1 ถังไว้ใกล้ตัวเสมอ เพื่อใช้ดับเพลิงดอกไม้ไฟหรือพลุที่จุดแล้วแต่ไม่ระเบิด ที่สำคัญคือ อย่าทดลองทำดอกไม้ไฟหรือพลุเล่นเอง เนื่องจากเคมีแต่ละตัว สามารถทำปฏิกิริยา อาจจะทำให้เกิดอันตรายหรือกระทบกระเทือน สามารถทำให้ระเบิดได้ บางอย่างหากเก็บไว้ไม่เป็นที่เป็นทางก็อาจเกิดระเบิดได้เช่นกัน ************************ 9 พฤศจิกายน 2551


   
   


View 18    09/11/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ