ไทยเปิดเวทีให้นานาชาติร่วมแก้ปัญหาจาก “เพศ” ชี้ทุก 1 นาที มีคนติดเชื้อกามโรค 650 คน /ท้อง 190 คน

ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการนานาชาติแก้ไขปัญหาการเจ็บป่วยที่เกิดมาจากเพศ ที่กำลังรุนแรงขณะนี้คือโรคเอดส์ การทำแท้ง โดยขณะนี้ทั่วโลกมีคนติดเชื้อกามโรคจากมีเซ็กส์ไร้ถุงยางอนามัย นาทีละ 650 คน ในจำนวนนี้ 10 คนติดเอดส์ และท้องโดยไม่ตั้งใจนาทีละ 190 คน ขณะเดียวกันมีสามี-ภรรยา 350 ล้านคู่ มีลูกมากเพราะเข้าไม่ถึงการวางแผนครอบครัว ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุมนานาชาติ เพื่อแก้ปัญหาการเจ็บป่วยที่เกิดมาจากเพศ จัดโดยสถาบันฝึกอบรมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์แห่งประเทศไทย โดยมีกลุ่มประเทศในภาคพื้นเอเชียและประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ประมาณ 20 ประเทศ ร่วมประชุมประมาณ 200 คน ที่โรงแรมดิเอมเมอรัล กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 1 -4 พฤศจิกายน 2549 ว่า ขณะนี้โรคภัยที่เกิดมาจากเพศยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขหลักของโลก ที่สำคัญได้แก่ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะเอดส์ การท้องและทำแท้ง การวางแผนครอบครัว ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก 192 ประเทศ เร่งดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยกำหนดเป้าหมายให้สำเร็จภายใน พ.ศ. 2558 นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า ปัญหาหลักที่กำลังรุนแรงคือ การตั้งครรภ์นอกสมรสและการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ล่าสุดองค์การอนามัยโลกรายงานว่า ต่อปีผู้หญิงทั่วโลกทำแท้ง 19 ล้านคน ร้อยละ 99 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา โดย 10.5 ล้านคนอยู่ในทวีปเอเชีย และเสียชีวิตจากการทำแท้งปีละ 68,000 คน ร้อยละ 50 อยู่ในเอเชีย และปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันละ 14,000 คน ร้อยละ 50 อายุต่ำกว่า 25 ปี เฉลี่ยทุก 1 นาที การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ทำให้ผู้หญิงท้องไม่พึงประสงค์ 190 คน และมีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งชายและหญิง 650 คน ในจำนวนนี้ 10 คนติดเชื้อเอชไอวี นอกจากนี้ ยังมีคู่สมรสประมาณ 350 ล้านคู่เข้าไม่ถึงการวางแผนครอบครัว ทำให้มีลูกมาก สุขภาพแม่ทรุดโทรม ส่งผลให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตปีละ 11 ล้านคน ส่วนแม่เสียชีวิตปีละ 6 แสนคน จึงต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน เพราะปัญหาเหล่านี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้มากว่า 30 ปี ปัญหาลดลงมาก โดยอัตราการวางแผนครอบครัวของของไทยครอบคลุมกว่าร้อยละ 80 อัตราการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มหญิงบริการทางเพศสูงกว่าร้อยละ 90 แต่ปัญหาใหม่ที่เป็นสัญญาณอาจทำให้การควบคุมโรคเอดส์ของไทยปะทุขึ้นมาอีก คือ กลุ่มวัยรุ่นที่พบว่ามีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น โดยเฉพาะเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี มีอัตราการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ ซิฟิลิส เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ผลสำรวจในช่วงปี 2545-2547 ในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบผู้ชายไม่ใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 81 ส่วนผู้หญิงไม่ใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 77 จึงทำให้วัยรุ่นติดเชื้อกามโรคปีละเกือบ 5,000 คน และสามารถแพร่เชื้อต่อไปอีกได้อีกหลายเท่า ในการแก้ปัญหา ต้องใช้การบูรณาการทั้งด้านการป้องกันและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านต่างๆ รับผิดชอบ เช่น ด้านสุขภาพจิต อนามัยเจริญพันธุ์ การให้ความรู้เยาวชนเรื่องเพศที่ถูกต้อง รวมทั้งการพัฒนาด้านการแพทย์ ********************************* 1 พฤศจิกายน 2549