ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจง การวิจัยกัญชาทางการแพทย์มีงบสนับสนุนต่อเนื่อง ปี 2566 ใช้งบจากหน่วยงานสนับสนุนการวิจัยมาวิจัยกัญชากัญชงครบวงจรกว่า 80 ล้านบาท ทำให้เกิดความคล่องตัวกว่าการใช้งบปกติ เน้นเรื่องประโยชน์ทางการแพทย์และควบคุมคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สั่งใช้ ผู้ป่วยและผู้บริโภค พร้อมให้ทุกเขตสุขภาพวิจัยอย่างน้อยปีละ 2 เรื่อง รองรับ Service Plan สาขากัญชา โดยตั้งแต่มีนโยบายในปี 2562 จนถึงปี 2565 เกิดงานวิจัยกว่า 60 เรื่อง และกว่าครึ่งเป็นเรื่องประสิทธิผลและความปลอดภัย 

          วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีผู้ตั้งข้อสังเกตเรื่องการจัดสรรงบประมาณ ตามพ.ร.บ.งบประมาณ 2566 ไม่มีการจัดสรรงบฯ เพื่อศึกษาวิจัยกัญชาทางการแพทย์ให้กับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข แสดงว่ากัญชาทางการแพทย์เป็นเพียงวาทกรรม ว่า ตั้งแต่เริ่มมีนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ในปี 2562 กระทรวงสาธารณสุขได้เดินหน้าศึกษาวิจัยกัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปลูกและผลิตเป็นยาใช้เองได้ ช่วยลดรายจ่ายการนำเข้ายาจากต่างประเทศ และสร้างรายได้จากการส่งออกและดึงผู้ป่วยจากต่างประเทศเข้ามาใช้บริการ โดยมีการทบทวนข้อมูลทางวิชาการอย่างเป็นระบบ และจัดทำแนวทางการใช้กัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้เห็นศักยภาพที่แท้จริงว่ายากัญชาจะช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพเรื่องใดได้บ้าง

          นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ในด้านการศึกษาวิจัย โรงพยาบาลและกรมวิชาการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมสุขภาพจิต และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ต่างเร่งศึกษาวิจัยโดยได้รับงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีหน้าที่หลักในการสนับสนุนการวิจัย เช่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นต้น ซึ่งจะมีความคล่องตัวในการดำเนินงานวิจัยมากกว่าการใช้งบประมาณปกติที่ต้องดำเนินการให้ทันในปีงบประมาณ เนื่องจากงานวิจัยบางเรื่องต้องใช้เวลาหลายปี และอาจมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการดำเนินงานวิจัย ซึ่งตั้งแต่เริ่มมีนโยบายกัญชาทางการแพทย์ในปี 2562 จนถึงปี 2565 มีผลงานศึกษาวิจัยเกิดขึ้นถึง 60 เรื่อง ครอบคลุมตั้งแต่การนำไปใช้ประโยชน์ การผลิตและสกัด สายพันธุ์ และระบบการกำกับติดตามให้เกิดการใช้ที่ปลอดภัย

          “งานวิจัยกว่าครึ่งเป็นการศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของการใช้ยากัญชาหลักๆ ใน 3 กลุ่มโรค คือ มะเร็ง นอนไม่หลับ และโรคทางสุขภาพจิตที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยามาตรฐาน ซึ่งนอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับแพทย์ที่เป็นผู้สั่งใช้ยาให้ผู้ป่วยแล้ว ยังถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานในการเสนอบรรจุยากัญชาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ 7 รายการ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และยังส่งผลต่อเกษตรกรให้มีตลาดรองรับที่ชัดเจนจากการปลูกกัญชา” นพ.โอภาสกล่าว

          นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 2566 กระทรวงสาธารณสุขยังมีการศึกษาวิจัยกัญชา กัญชง ครบวงจร ภายใต้งบวิจัยมากกว่า 80 ล้านบาท เช่น งบจาก สกสว. 4,106,000 บาท งบประมาณกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 15,000,000 บาท งบกองทุนภูมิปัญญา 13,370,000 บาท งบจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) 2,716,000 บาท เป็นต้น โดยจะเน้นเรื่องการวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ พัฒนาเครื่องมือและวิธีการเพื่อควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สั่งใช้ยา ผู้ป่วย และผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการวิจัยจากงานประจำ เนื่องจากมีความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ นำไปสู่การส่งเสริมการใช้อย่างแท้จริงของพื้นที่โดยในแผนบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขากัญชาปีนี้ได้เพิ่มเติมให้ทุกเขตสุขภาพมีการวิจัยหรือจัดการความรู้อย่างน้อยปีละ 2 เรื่อง นอกเหนือจากตัวชี้วัดเรื่องการเข้าถึงยากัญชาของผู้ป่วยด้วย

 ************************************* 2 พฤศจิกายน 2565



   
   


View 1169    02/11/2565   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ