รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการโรงพยาบาลทั่วประเทศ ปรับปรุงห้องฉุกเฉิน ให้ทันสมัย คล่องตัวในการบริการผู้ป่วย ลดการแพร่กระจายเชื้อ หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่มั่นใจไม่ติดเชื้อ นำร่องในกทม.แห่งแรกที่โรงพยาบาลราชวิถี นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถีว่า โรงพยาบาลราชวิถีเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่ละวันมีผู้ป่วยเข้ารับบริการในโรงพยาบาลมากกว่า 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน จุดที่น่าห่วงที่สุดคือห้องฉุกเฉินหรือห้องอีอาร์ เป็นจุดรองรับผู้ป่วยทุกชนิดที่มีอาการวิกฤติ เจ้าหน้าที่ทั้งหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเสี่ยงติดเชื้อโรค เนื่องจากห้องอีอาร์ในโรงพยาบาลใหญ่ มักตั้งอยู่ด้านในของตึกผู้ป่วยนอก แสงแดดส่องไม่ถึง อากาศไม่หมุนเวียน และใช้ระบบปรับอากาศตลอดเวลา อาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ จะต้องปกป้องสุขภาพให้เจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้ทำงานอย่างหมดกำลังใจ และผู้มารับบริการให้มีความมั่นใจว่าจะไม่ติดเชื้อโรคเพิ่ม ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ดำเนินการปรับปรุงห้องฉุกเฉินให้ทันสมัย สะดวกในการทำงานกับคนไข้ และให้จัดโซนพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยแต่ละประเภทแยกจากกันให้ชัดเจน เช่น ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยหนัก และผู้ป่วยติดเชื้อ รวมทั้งปรับปรุงระบบหมุนเวียนระบายอากาศ ให้สะอาดปลอดภัย และปรับปรุงตัวอาคารให้แสงแดดส่องเข้าถึง เพื่อลดความอับชื้น ลดการแพร่กระจายโรค นำร่องแห่งแรกที่โรงพยาบาลราชวิถี ในส่วนต่างจังหวัด ได้กำชับให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามเป็นกรณีพิเศษ นายไชยา กล่าวต่อว่า สำหรับที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งอยู่ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นแหล่งรวมของรถเมล์ รถตู้ เคยได้รับการร้องเรียนเรื่องทางเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ไม่สะดวก เนื่องจากการจราจรแออัด ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากความล่าช้าในการเดินทาง ทั้งๆที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลแล้วก็ตาม ในวันนี้ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ขอให้ดูแลเรื่องการจอดรถขวางทางเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นการด่วน เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อชีวิตผู้เจ็บป่วย ******************************************* 3 มีนาคม 2551


   
   


View 13    03/03/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ