กระทรวงสาธารณสุขไทย ให้การสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา เมียนมา ส่งแพทย์ไทยพร้อมอุปกรณ์การแพทย์ร่วมจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพประชาชนในรัฐยะไข่ และเห็นชอบแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ (ปี พ.ศ. 2562 -2564) ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างสองประเทศ

 

       วันนี้ (24 สิงหาคม 2561) ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานร่วมกับนายแพทย์มินท์ ทเว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในการประชุมทวิภาคีระดับรัฐมนตรีระหว่างประเทศไทยและเมียนมา เพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการปี พ.ศ. 2562 - 2564 (Thailand- Myanmar Bilateral High Officials Meeting on Workplan 2019-2021) ณ โรงแรมชาเทรียม กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

      ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าวว่า ความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างสองประเทศ ปี พ.ศ. 2562 - 2564 มีกิจกรรมใหม่ที่สำคัญซึ่งอยู่นอกเหนือจากแผนปฏิบัติการดังกล่าว แต่เป็นความต้องการและร้องขอจากเมียนมาเป็นกรณีพิเศษ คือการจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ( Mobile medical services) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นของประชาชนในรัฐยะไข่ ของเมียนมา ฝ่ายไทยจะให้การสนับสนุนทีมแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอย่างเต็มที่ แบ่งการดำเนินงานเป็นสองระยะ คือระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นทีมแพทย์ทั่วไปของไทยและเมียนมาร่วมกันจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนในรัฐยะไข่ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังยินดีให้การสนับสนุนแพทย์เฉพาะทางด้านต่าง ๆ เช่น อนามัยแม่และเด็ก โภชนาการ โสต ศอ นาสิก และจักษุวิทยา ไปประจำบางเวลาที่โรงพยาบาลในรัฐยะไข่ตามที่เมียนมามีความประสงค์และร้องขอ ส่วนระยะยาวจะเน้นการพัฒนาศักยภาพเชิงระบบและการพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในไม่ช้าเนื่องจากได้ส่งทีมสำรวจลงพื้นที่ก่อนหน้านี้แล้ว

      นอกจากนี้ รัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบต่อแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ (ปี พ.ศ. 2562 -2564) ภายใต้ ข้อตกลงความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างสองประเทศ 7 ด้าน ได้แก่ การป้องกัน ควบคุมและเฝ้าระวังโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การส่งเสริมความปลอดภัยของอาหารและยา การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการควบคุมการติดเชื้อ การพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ การส่งเสริมการแพทย์ดั้งเดิม การส่งเสริมสุขภาพ การพัฒนาระบบการให้บริการสุขภาพแก่ผู้โยกย้ายถิ่น โดยใช้งบประมาณจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศและองค์กรระหว่างประเทศที่เป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาสุขภาพ

     ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขไทยพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฉบับใหม่นี้อย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพที่ยั่งยืนและยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

********************************* 24 สิงหาคม 2561

 



   
   


View 689    24/08/2561   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ