กระทรวงสาธารณสุขกำชับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเบบินคา ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด

          วันนี้ (18 สิงหาคม 2561 ) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสถานบริการสาธารณสุขในภาคภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่มจากพายุโซนร้อนเบบินคา ในช่วงวันที่ 18-19 สิงหาคมนี้ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร  ตาก ราชบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต ติดตามสถานการณ์ เตรียมรับมือและเตรียมระบบบริการประชาชน จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในพื้นที่ที่ประชาชนเข้าถึงบริการไม่สะดวก พร้อมเปิดศูนย์ EOC เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง  

           นอกจากนี้ ได้ให้สำรองยาที่จำเป็น เช่น กลุ่มยาแก้แพ้ ยาลดไข้ ปวดเมื่อย ยาทาผิวหนัง ยารักษากลุ่มโรคที่มากับน้ำท่วมและหลังน้ำท่วม และการเฝ้าระวังโรคป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วมเช่น โรคฉี่หนู ตาแดง รวมถึงให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการจมน้ำ ไฟดูด รวมทั้งการดูแลกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หญิงตั้งครรภ์และหลังคลอด ซึ่งขณะนี้ทีมหมอครอบครัวและ อสม. ได้ออกเยี่ยมบ้านสำรวจกลุ่มเสี่ยง และให้ยารักษาโรคประจำตัวเพิ่มไว้ ไม่ให้มีปัญหาขาดยา

ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์อุทกภัย ได้ส่งยาชุดน้ำท่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว 20,400 ชุด ยาตำราหลวง 2,500 ชุด ยาทารักษาโรคน้ำกัดเท้า 3,750 หลอด ยาทากันยุง 700 หลอด เสื้อชูชีพ 300 ตัว อยู่ระหว่างการจัดส่งยาให้จังหวัดตราดอีก 1,000 ชุด มีผู้รับบริการด้านการแพทย์รวม 2,727 คน คัดกรองปัญหาสุขภาพจิต 3,123 ราย พบมีภาวะเครียด 152 ราย ประชาชนเจ็บป่วยฉุกเฉินโทรขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

********************************** 18 สิงหาคม 2561



   
   


View 393    18/08/2561   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ