สธ.เผยฉลองเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน รถหวอวิ่งกู้ชีพกว่า 8,000 ครั้ง หรือทุก 1 นาที

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลชุมชนที่ตั้งบนถนนมิตรภาพ หน่วยแพทย์พยาบาลรับมือได้ สรุปช่วงหยุด 5 วันฉลองเทศกาลสงกรานต์ หน่วยกู้ชีพฉุกเฉินวิ่งปฏิบัติการกว่า 8,000 ครั้ง เฉลี่ยทุก 1 นาที เจ็บอุบัติเหตุจราจรครองแชมป์อันดับ 1 รองลงมาคือโรคประจำตัวกำเริบ เช่นเบาหวาน แนะประชาชนช่วงก่อนเดินทางกลับ 1 วัน ควรหยุดดื่มเหล้า โดยเฉพาะผู้ที่ กินสลึงแต่เมาบาท ต้องระวัง! และพักผ่อนให้พอ วันนี้( 16 เมษายน 2550 ) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมวกเหล็กจ.สระบุรี โรงพยาบาลปากช่องนานา โรงพยาบาลสีคิ้ว โรงพยาบาลสูงเนิน จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามการให้บริการหน่วยแพทย์ฉุกเฉินและการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า หน่วยแพทย์พยาบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่ สามารถรับมือจำนวนผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บได้ การบาดเจ็บส่วนใหญ่มีบาดแผลที่แขนขาเป็นอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ ทำแผลแล้วกลับบ้านได้ จากการตรวจเยี่ยมที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลสีคิ้ว พบว่ามีปริมาณผู้ป่วยฉุกเฉินทุกประเภทเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า ตลอดช่วงฉลองเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน มีผู้ใช้บริการโทร 1669 มากถึงร้อยละ 35 เพิ่มจากปีที่แล้ว 3 เท่าตัว โดยหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินที่มีกว่า 4,000 ทีม ออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินทุกประเภททั้งหมด 8,309 ครั้ง เฉลี่ยออกปฏิบัติการเกือบทุก 1 นาที สาเหตุการเจ็บป่วยที่พบมากอันดับ 1 ได้แก่ อุบัติเหตุจราจร 4,027 ครั้ง หรือร้อยละ 49 รองลงมาได้แก่ป่วยฉุกเฉินจากโรคประจำตัวกำเริบเช่นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ทำให้หมดสติ 2,880 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 35 ที่เหลือป่วยฉุกเฉินอื่นๆ ได้แก่ถูกทำร้ายร่างกาย 529 ครั้ง ฆ่าตัวตาย 37 ครั้ง จมน้ำ 10 ครั้ง พลัดตกหกล้ม ตกจากที่สูง 250 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 และ 17 เมษายน 2550 เป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับจากต่างจังหวัดเพื่อทำงานตามปกติ ขอแนะนำว่าผู้ที่มีกำหนดจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมล่วงหน้าก่อน 1 วัน โดยพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง และควรหยุดดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผู้ที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือคนที่ติดเหล้าอยู่แล้ว ซึ่งทั่วประเทศมีประมาณ 9 ล้านคน เนื่องจากผู้ที่ดื่มประจำ ตับจะถูกทำลายอยู่แล้ว ทำให้การทำงานของตับในการทำลายสารพิษต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายรวมทั้งแอลกอฮอล์ได้น้อยลง จึงทำให้เมาเร็วกว่าคนที่ไม่ติดเหล้าหรือไม่ได้ดื่มเหล้าประจำ โดยดื่มแค่นิดเดียวเหมือนกับดื่มมาก ซึ่งคนในวงเหล้ามักเรียกกันว่า ดื่มสลึงเมาบาท ดื่มแก้วเมากั๊ก หรือดื่มแบนเมากลม ควรหยุดดื่ม ส่วนผู้ที่ดื่มไปแล้ว มีคำแนะนำวิธีการทำให้หายเมา สร่างเมา ขอให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆหรือดื่มชา เพื่อให้ร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือไม่ดื่มเหล้าเลย นายแพทย์ปราชญ์กล่าว ********************** 16 เมษายน 2550