รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย รอบ 3 วันฉลองสงกรานต์ประชาชนพึ่งสายด่วน 1669 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3 เท่าตัว มีมือมืดโทรป่วนนเรนทร เฉลี่ยวันละกว่า 700 สาย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ทำให้โทรไม่ติด ส่วนพ่อค้าแม่ค้ายังฝ่าฝืนขายเหล้าฉลองสงกรานต์ตามสถานที่และเวลาห้ามขายมากถึง ร้อยละ 15 โดยมักอ้างกลัวเสียลูกค้าประจำ เสนอเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้มงวดคุมเหล้ามากขึ้นในอีก 4 วันที่เหลือ เพราะการเมายังเป็นต้นเหตุอุบัติเหตุถึงร้อยละ 40 วันนี้ ( 14 เมษายน 2550) ที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กทม. นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าของการควบคุมป้องกันปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ในด้านการแพทย์และสาธารณสุข พบว่าในรอบ3วันมานี้ ประชาชนใช้บริการสายด่วน 1669 เพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว 3 เท่าตัว โดยเรียกใช้หน่วยกู้ชีพในตำบลต่างๆซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์เดียวกันเพิ่มขึ้น 6 เท่าตัว เป็นสัญญานชี้แนวโน้มว่าประชาชนที่เจ็บป่วยจะเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยหน่วยบริการที่อยู่ในเขตเมืองและเทศบาลสามารถไปถึงจุดเกิดเหตุหลังรับแจ้งไม่เกิน 10 นาทีมากถึงร้อยละ70 เมื่อวิเคราะห์ความรุนแรงการบาดเจ็บแล้ว พบว่ามีเพียงร้อยละ 30 ที่มีอาการสาหัส ชี้ให้เห็นว่าเป็นผลสำเร็จของมาตรการความร่วมมือในการควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุจราจรจากหน่วยงานต่างๆ ทำให้ปัญหาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตปีนี้ไม่รุนแรงขึ้น แต่ที่น่าห่วงมาก พบว่าประชาชนยังเห็นว่าโทร 1669 ซึ่งเป็นสายด่วนช่วยชีวิตประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน ประชาชนยังไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร โดยมีการโทรมาก่อกวนเจ้าหน้าที่ 3วัน มากถึง 2153 สาย เฉลี่ยวันละ 700 กว่าสาย เฉพาะวันที่13 เมษายน พบเกือบ 900 สาย เช่นโทรหยอกล้อ แซวเจ้าหน้าที่ โทรจีบสาว พบในกลุ่มเด็กมาก เมื่อตรวจสอบมักจะใช้โทรศัพท์จากตู้สาธารณะมากกว่า ซึ่งการกระทำเช่นจะเป็นการทำลายโอกาสรอดชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากมือแพทย์ เพราะเมื่อโทรมาแล้วจะโทรไม่ติด สายไม่ว่าง ทำให้ผู้ประสบเหตุตัดสินใจขนคนเจ็บป่วยฉุกเฉินมาเอง เสี่ยงต่อความพิการและเสียชีวิตระหว่างการนำส่ง จึงขอวิงวอนประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครองเด็กขอให้สอดส่องกำชับลูกหลานอย่าโทรรบกวนเจ้าหน้าที่นเรนทร ทั้งนี้ในด้านการประเมินการบาดเจ็บและเสียชิวิตจากอุบัติเหตุจราจรในรอบ 3 วันมานี้ พบว่าสาเหตุส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 40 มาจากการเมาเหล้า จะต้องเร่งควบคุมกันอย่างเข้มข้นต่อไปอีก จากการสุ่มสำรวจของการขายเหล้าในสถานที่และเวลาห้ามขายตามถนนสายหลักและสายรอง ของกรมควบคุมโรคในจังหวัดขนาดใหญ่ เช่นเชียงใหม่ ราชบุรี สุราษฎร์ธานี พบว่า ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2550 เป็นต้นมา ยังมีการฝ่าฝืนขายเหล้าทั้งในพื้นที่ห้ามขาย และขายนอกเวลาที่อนุญาตให้ขาย ตามกฎหมายของกรมสรรพสามิต เฉลี่ยประมาณร้อยละ 15 การฝ่าฝืนดังกล่าว พบว่า มีการขายในพื้นที่ห้ามขายได้แก่ ตามร้านที่อยู่ในปั้มน้ำมันต่างๆ ในสถานศึกษา และร้านที่ตั้งในงานวัดต่างๆที่มีการจัดงานรื่นเริงฉลองเทศกาล ร้อยละ 15 และขายเหล้านอกเวลาที่กฎหมายกำหนดคือห้ามขายหลั 14.00น. ถึง17.00น. และเวลาเวลา 24.00 ถึง 11.00 น.ร้อยละ 10 โดยการขายนอกเวลาผู้ค้ามักอ้างว่าขายให้เฉพาะลูกค้าประจำ กลัวจะเสียลูกค้า โดยการฝ่าฝืนพบมากในถนนสายรองมากกว่าสายหลัก นายแพทย์มรกต กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกรมสรรพสามิตให้เข้มงวด สอดส่องการขายเหล้าในบริเวณที่ห้ามจำหน่าย รวมทั้งร้านที่อยู่ติดบริเวณเหล่านี้ให้มากขึ้นในช่วง 4 วันที่เหลือ และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นมีการฝ่าฝืนขอให้แจ้งหมายเลข 1173 ซึ่งเป็นศูนย์รับแจ้งของกรมสรรพสามิต ทางด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สุรากับอุบัติเหตุมีความเกี่ยวพันสูงกับการเกิดอุบัติเหตุจราจร ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามเน้นการรณรงค์ ลดการดื่มเหล้า ซึ่งมาตรการอย่างเดียวจะไม่เกิดประสิทธิผลมากนัก จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการอื่นๆเข้ามาช่วยเช่น การจำกัดสถานที่ดื่ม จำกัดวันเวลา สถานที่ในการขาย ที่สำคัญคือการห้ามโฆษณาและส่งเสริมการขาย ********************* 14 เมษายน 2550


   
   


View 14    14/04/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ