กระทรวงสาธารณสุข เร่งป้องกันปัญหาสุขภาพคนไทย จากการไร้ฟันเคี้ยวอาหาร ในปีนี้เปิดบริการใส่ฟันเทียมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาให้ผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร 30,000 คน มอบเป็นของขวัญเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และเคลือบหลุมร่องฟันป้องกันฟันผุให้เด็กวัยเรียนทั่วประเทศปีละ 300,000 คน ฟรี
เช้าวันนี้ (9 เมษายน 2550) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ กรุงเทพฯ นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะ กล่าวสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเปิดประชุมโครงการ ฟันเทียมพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และโครงการ ยิ้มสดใส เด็กไทยฟันดี เพื่อมอบนโยบายให้ทันตบุคลากร ที่ปฏิบัติงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลและศูนย์อนามัยเขตทั่วประเทศกว่า 500 คน ซึ่งเป็นผู้ประสานงานโครงการดังกล่าว เพื่อให้โครงการบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย
นายแพทย์มรกต กล่าวว่า ในปี 2550 นี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดโครงการแก้ไขปัญหาโรคทางช่องปาก 2 เรื่องใหญ่คือ การใส่ฟันเทียมพระราชทานให้ผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหารฟรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นโครงการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548- 2550 ตั้งเป้าหมาย 80,000 คน ใช้งบประมาณ 238 ล้านบาทเศษ ผลการดำเนินงานใน 2 ปีที่ผ่านมาใส่ฟันเทียมไปแล้ว 60,000 คน ในปีนี้ซึ่งเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ตั้งเป้าใส่ฟันเทียมให้ผู้สูงอายุอีก 30,000 คน มอบเป็นของขวัญเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติซึ่งตรงกับวันที่ 13 เมษายน 2550 นี้ โครงการที่ 2 ได้แก่การเคลือบหลุมร่องฟันให้เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา ปีละ 300,000 คน เพื่อป้องกันฟันผุ และเสริมสร้างพฤติกรรมให้เด็กนักเรียนสามารถดูแลสุขภาพฟัน ไม่ให้เกิดปัญหาฟันผุตามมา
นายแพทย์มรกต กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุเกินร้อยละ 7 ของประชากรทั้งหมด จัดว่าอยู่ในสังคมของผู้สูงวัย โดยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปประมาณ 7 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่เสื่อมลง กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์เพื่อรองรับบริการ โดยมีนโยบายให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดคลินิกผู้สูงอายุ จัดบริการแบบทางด่วนพิเศษฟรี ให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการง่าย รวดเร็ว ขณะเดียวกันเน้นการส่งเสริมสุขภาพเพื่อชะลอความชรา และส่งเสริมสุขภาพกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปซึ่งอยู่ในวัยทองให้มีสุขภาพดี เตรียมความพร้อมก้าวสูวัยผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ โดยตั้งเป้าหมายว่าเมื่อสิ้นปี 2554 ผู้สูงอายุไทยจะมีอายุเฉลี่ย 80 ปี ใกล้เคียงกับญี่ปุ่น และตั้งเป้าผู้สูงอายุจะต้องมีฟันเคี้ยวอาหารไม่น้อยกว่า 20 ซี่ ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ด้านนายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจทั่วประเทศล่าสุดพบผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันประมาณ 4 ล้านคน โดยเฉพาะไม่มีฟันทั้งปากประมาณ 3 แสนคน จำเป็นต้องใส่ฟันเทียมเพื่อช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร เนื่องจากฟันเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพที่ทำให้อยู่อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิต ทำให้อาหารเข้าสู่ร่างกายอย่างปกติ ผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันจะมีปัญหาสุขภาพมาก เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร ขาดแร่ธาตุต่างๆ สูงเนื่องจากกินได้น้อย จะผอม ระบบภูมิต้านทานโรคต่ำลง เจ็บป่วยได้ง่าย เกิดอาหารไม่ย่อย/ท้องอืดได้มากกว่าคนที่มีระบบการเคี้ยวปกติ การใส่ฟันเทียมจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้มาก นอกจากนี้ผู้สูงอายุควรดูแลสุขภาพช่องปากตัวเอง เพื่อลดการสูญเสียฟันไปพร้อมๆกัน
....... เมษายน2/9 ***** 9 เมษายน 2550
View 15
09/04/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ