สธ. ติวเข้มหมอ-หมอฟัน ป้ายแดงกว่า 1,500 คน ก่อนส่งไปให้บริการประชาชนต่างจังหวัด

กระทรวงสาธารณสุขติวเข้มแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่กว่า 1,500 คน ก่อนลงไปทำงานในโรงพยาบาลทั่วประเทศวันที่ 3 เมษายน 2550 โดย 3 จังหวัดใต้ได้แพทย์ 29 คน ส่วนทันตแพทย์ได้ไป 18 คน แนะให้แพทย์ช่วยเสริมสร้างสุขภาพมากขึ้น และทำงานเป็นทีม โดยประสานและทำงานกับ อสม. 8 แสนคนทั่วประเทศ เช้าวันนี้ (2 เมษายน 2550) ที่ห้องประชุมแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็คคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการปฐมนิเทศและให้โอวาทแพทย์และทันตแพทย์ที่จบใหม่ และปฏิบัติงานชดใช้ทุนในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1,585 คน ประกอบด้วยแพทย์ 1,236 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นแพทย์จบใหม่จากโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทจำนวน 277 คน และทันตแพทย์ 349 คน เพื่อให้บุคลากรใหม่นี้รู้ภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบ ในการปฏิบัติงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2550 เป็นต้นไป ในการกระจายแพทย์ ทันตแพทย์ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ใช้เกณฑ์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จัดตามจำนวนประชากรความรับผิดชอบ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบริการที่เท่าเทียมกัน ในวันนี้มีแพทย์มารายงานตัวจำนวน 1,204 คน เฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้โควต้าแพทย์ทั้งหมด 46 คน ประกอบด้วย ยะลา 10 คน ปัตตานี 12 คน นราธิวาส 24 คน สำหรับทันตแพทย์ 349 คน ได้กระจายลงโรงพยาบาลต่างๆ ใน 67 จังหวัด 317 คน เลือกสถาบันพระบรมราชชนก 8 คน เลือกกรมต่างๆสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 4 คน ลงในโครงการต่างๆ 13 คน และจะจบช้าในปี 2550 อีก 7 คน ในส่วนของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดสรรโควต้าทั้งหมด 23 คน แต่มีเลือกลง 18 คน ยังขาดอีก 5 คน โดยจังหวัดยะลาได้โควต้า 4 คน มีสมัคร 3 คน ขาด 1 คน จังหวัดนราธิวาสโควต้า 5 คน มีสมัครลง 1 คน ขาด 4 คน จังหวัดปัตตานีโควต้า 4 คน สมัครลง 1 คน ขาด 3 คน สงขลาและสตูลได้โควต้ารวม 10 คนสมัครลงทั้งหมด นายแพทย์มรกต ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการปฐมนิเทศว่า ในปีนี้ได้เน้นนโยบายให้แพทย์และทันตแพทย์จบใหม่ทุกคนให้ความสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง ต้านทานโรคได้ เพื่อให้งานซ่อมสุขภาพลดลง เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายงบประมาณในการรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้เบียดบังงบประมาณที่นำไปใช้พัฒนาประเทศลดลง ขณะเดียวกันขอให้ทำงานร่วมกับ อสม. ที่มีอยู่ 8 แสนคนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นพลังในการช่วยลดภาวะการขาดแคลนบุคลากร และลดภาระไม่ให้เหนื่อยมากด้วย และให้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานด้วยความสามัคคีและสมานฉันท์ นายแพทย์มรกตยังได้ให้โอกวาทแก่แพทย์ ทันตแพทย์ใหม่ว่า เมื่อเดินทางไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด ขอให้มีความมุ่งมั่น เสียสละ และอยู่ในระเบียบของหน่วยงาน ซึ่งการทำงานย่อมมีปัญหาและอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา ขอให้อดทนและและสู้ปัญหา ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะให้การดูแลและช่วยเหลือ หากมีปัญหาปรึกษาผู้บังคับบัญชาได้ทันที ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวให้โอวาทแพทย์ทันตแพทย์ ก่อนเดินทางไปปฏิบัติงานว่า ให้เน้นการทำงานเป็นทีมของสหวิชาชีพหลายด้าน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำโดยยึดประชาชนเป็นหลัก ขณะเดียวกันต้องรุกออกไปในชุมชนด้วย เพื่อให้เหมาะกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและปัญหามีความซับซ้อนเกี่ยวข้องกับหลายสาเหตุ โดยให้แพทย์ ทันตแพทย์ใหม่นำวิชาใหม่ๆไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับฐานความคิดท้องถิ่น เคารพภูมิปัญญาชาวบ้าน บูรณาการความรู้สุขภาพสมัยใหม่ให้เข้ากับสิ่งที่มีชาวบ้านคิด ชาวบ้านเชื่อ เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพให้ได้ ทั้งนี้หากสามารถสร้างความเชื่อถือความไว้วางใจจากคนในชุมชนแล้ว โรงพยาบาลก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและได้รับการสนับสนุน ความร่วมมือที่ดีจากชุมชน จะสามารถแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนได้ไม่ยาก