“รมช.ต่อพงษ์” เร่งแก้ไขน้ำเน่า ควบคุมบ่อขยะนับแสนตันที่ลพบุรี ไม่ให้แพร่กระจาย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ห่วงปัญหาบ่อขยะ น้ำท่วมขังเน่าเสียที่ลพบุรี จะมีผลกระทบสุขภาพผู้ประสบภัย ให้กรมอนามัยเร่งสำรวจและจัดการแก้ไขเป็นการด่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาล และให้เพิ่มความถี่ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ป้องกันตัว เลี่ยงเดินลุยน้ำ ส่วนด้านสุขภาพ ขณะนี้พบผู้เจ็บป่วย 17,000 กว่าราย มีผู้มีความเครียดรุนแรง ต้องติดตามดูแลใกล้ชิด 119 ราย วันนี้ ( 3 ตุลาคม 2554 ) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เดินทางไปที่จังหวัดลพบุรี และร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดลพบุรี ซึ่งมีน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2554 เป็นต้นมา รวมทั้งหมด 11 อำเภอ ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลาย อยู่ระหว่างฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและควบคุมป้องกันโรค 5 อำเภอ ยังเหลือพื้นที่น้ำท่วม 6 อำเภอ พื้นที่วิกฤติรุนแรงที่สุดอยู่ที่ อ.เมือง รองลงมาคือที่ อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่ โดยมีจุดอพยพชาวบ้านที่น้ำท่วมบ้านสูง 200 กว่าจุด ประมาณ 10,000 คน ส่วนที่เหลืออีก 3 อำเภอคือ โคกสำโรง ชัยบาดาล และพัฒนานิคม สถานการณ์เริ่มคลี่คลายขึ้น นายต่อพงษ์กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของลพบุรี ขณะนี้ คือปัญหาขยะ แต่ละวันมีปริมาณขยะวันละ 100กว่าตัน และมีบ่อขยะอีกนับแสนตัน ในพื้นที่ 50 ไร่ ซึ่งขณะนี้น้ำท่วมถึงแล้ว จะทำให้น้ำเน่าเหม็น และอาจก่อผลกระทบสุขภาพประชาชน ขณะนี้ทางจังหวัดได้ตอกเสาเข็มล้อม ขึงสแลน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่นำเรือเฝ้าเก็บขยะ การนำเอาออกจากพื้นที่ 50 ไร่ เป็นเรื่องยาก ทำได้คือการจำกัดบริเวณไม่ให้กระจายไปในวงกว้างและใส่อีเอ็มลดการเน่าเสีย แจกถุงดำให้ประชาชนใช้ใส่ขยะ สิ่งปฏิกูลต่างๆ ไม่ให้ทิ้งลงน้ำ เพื่อป้องกันโรคระบาด ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงเดินลุยน้ำ หรือสัมผัสน้ำเน่าเสีย และในวันนี้จะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์โยนก้อน อีเอ็ม ในพื้นที่น้ำท่วมขังด้วย จากการสุ่มตรวจสภาพน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี ของกรมอนามัยที่โรงเรียนเทศบาล 1 และที่วัดตองปุ ต.ทะเลชุบศร เมื่อเช้าวันนี้ พบปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำมาก อยู่ในภาวะวิกฤต วัดค่าได้ 1.7 และ 1.9 พีพีเอ็ม ไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ ได้ให้กรมอนามัยเร่งสำรวจแหล่งน้ำเน่าเสีย โดยเฉพาะที่ขังนิ่งและใช้อีเอ็มแก้ไขสภาพน้ำเป็นการด่วน ในส่วนของเวชภัณฑ์ยาที่แจกไปแล้วจะให้แจกเพิ่มเติมอีกเนื่องจากน้ำท่วมนาน จะให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาตินำเฮลิคอปเตอร์ส่งยาทางอากาศในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก รวมทั้งให้เพิ่มยาคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย ผ้าอนามัย เพิ่มเติมด้วยเนื่องจากได้รับการร้องขอจากประชาชน ส่วนผลกระทบด้านสถานบริการสาธารณสุข ขณะนี้ยังสามารถป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไปได้ มีปัญหาเฉพาะ รพ.สต. ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในที่ลุ่ม จนถึงวันนี้ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 34 แห่ง ในจำนวนนี้ไม่สามารถเปิดให้บริการที่หน่วยที่ตั้งได้ ให้ไปจัดบริการในจุดอพยพ 16 แห่งแทน โดยสำนักงานสาธารณสุขจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการผู้ประสบภัยรวม 173 ครั้ง มีผู้เจ็บป่วย 17,609 ราย มากที่สุดคือ น้ำกัดเท้า รองลงมาคือโรคผิวหนังผื่นคัน เนื่องจากน้ำเริ่มเน่าเสีย ได้แจกยาไปแล้ว 73,764 ชุด พบผู้ที่มีความเครียดสูง อาจนำไปสู่การทำร้ายตัวเอง ต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ 119 ราย ************************************ 3 ตุลาคม 2554