“วรโชติ” เตือนผู้สูงอายุรับมืออาการปวดเข่าในฤดูหนาว แนะใช้ “เถาวัลย์เปรียง–น้ำมันไพล” บรรเทาอาการ พร้อมผลักดันสมุนไพรไทยสู่เศรษฐกิจสุขภาพ

“วรโชติ” เตือนผู้สูงอายุรับมืออาการปวดเข่าในฤดูหนาว แนะใช้ “เถาวัลย์เปรียง–น้ำมันไพล” บรรเทาอาการ พร้อมผลักดันสมุนไพรไทยสู่เศรษฐกิจสุขภาพ

“วรโชติ”เตือนผู้สูงอายุ ให้เฝ้าระวังอาการปวดเข่าและโรคข้อเข่าเสื่อมที่มักกำเริบในช่วงฤดูหนาว และช่วงเปลี่ยนผ่านของสภาพอากาศ ซึ่งถือเป็นโรคยอดฮิตของผู้สูงวัยที่พบอัตราการเกิดสูงขึ้นในช่วงอากาศเย็น พร้อมแนะนำ “เถาวัลย์เปรียง” และ “น้ำมันไพล”ช่วยบรรเทาอาการปวดอย่างปลอดภัย พร้อมชูศักยภาพสมุนไพรไทยสู่เศรษฐกิจสุขภาพ

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่ออุณหภูมิลดต่ำ ผู้สูงอายุจำนวนมากมักมีอาการปวดข้อ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมหรือมีปัญหาเข่าอยู่เดิม สัญญาณที่พบบ่อย ได้แก่ มีน้ำในข้อ เสียงกรอบแกรบเมื่อเคลื่อนไหว เข่าฝืด งอไม่สุด และขยับได้ไม่เต็มช่วง หากเริ่มมีอาการดังกล่าว ควรนวดรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อรอบเข่า ก่อนทำการประคบหรือพอกสมุนไพรเพื่อลดอาการอักเสบบริเวณที่ปวด

ด้านการใช้สมุนไพรบำบัด แนะนำให้ใช้ เถาวัลย์เปรียง ซึ่งเป็นสมุนไพรที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และมีงานวิจัยยืนยันถึงประสิทธิภาพในการลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวดได้ใกล้เคียงยาแผนปัจจุบัน ขณะที่ น้ำมันไพล เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยม ใช้ถูนวดเพื่อลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการปวดอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลอย่างปลอดภัยและสามารถใช้ได้ต่อเนื่อง

นอกจากคุณประโยชน์ด้านสุขภาพแล้ว สมุนไพรไทยยังมีบทบาทด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า มูลค่าไพลในประเทศ ปี 2567 สูงกว่า 360 ล้านบาท ขณะที่ เถาวัลย์เปรียง มีมูลค่ากว่า 10.3 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพของสมุนไพรไทยในการต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และ ขยายตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ขอแนะนำข้อควรปฏิบัติในการดูแลข้อเข่าในชีวิตประจำวัน โดยให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มแรงกดบนข้อ เช่น การนั่งยอง ยกของหนัก หรือยืนนาน รวมถึงลดอาหารที่อาจกระตุ้นอาการปวดข้อ เช่น หน่อไม้ เครื่องใน อาหารหมักดอง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมเน้นการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะธัญพืช ถั่ว และงา เพื่อช่วยบำรุงข้อควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เช่น ว่ายน้ำ หรือ กายบริหารแบบฤาษีดัดตน โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน นอกจากนี้ อากาศเย็นเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นอาการข้อเข่าเสื่อม ผู้สูงอายุจึงควรรักษาความอบอุ่นของร่างกาย และพักผ่อนอย่างเพียงพอวันละ 6–8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการเรื้อรังในระยะยาว

นายวรโชติ กล่าวในตอนท้ายว่า“แพทย์แผนไทยมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุในฤดูหนาว สมุนไพรไทยอย่างเถาวัลย์เปรียงและน้ำมันไพลไม่เพียงตอบโจทย์ด้านสุขภาพ แต่ยังมีศักยภาพสร้างเศรษฐกิจสมุนไพรไทย เติบโตควบคู่กับสุขภาพที่ยั่งยืนของประชาชน”

#หนาว #DTAMNEWS #กรมแพทย์แผนไทย #ผู้สูงอายุ