กรมการแพทย์แผนไทยฯ เชิญชวนร้านนวด–สปา เข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” หนุนเศรษฐกิจสุขภาพไทย
- กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
- 38 View
- อ่านต่อ
กรมการแพทย์ โดยสถาบันทันตกรรมได้จัดกิจกรรมวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2568 ในวันที่
21 ตุลาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการด้านทันตกรรม ได้แก่ การตรวจฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และถอนฟัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจำนวน 325 ราย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ
น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ที่ทรงมีเมตตาต่อประชาชน รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สุขภาพช่องปากเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตที่ดี การมีฟันและเหงือกที่แข็งแรงไม่เพียงช่วยให้รับประทานอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ยังส่งเสริมความมั่นใจในการพูด การยิ้ม และการเข้าสังคม กรมการแพทย์ตระหนักถึงความสำคัญนี้ จึงมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพช่องปากในกลุ่มประชากรทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ ทั้งนี้การบูรณาการการรักษาทั้งทางด้านการแพทย์และด้านทันตกรรมแบบองค์รวม จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกช่วงวัยและขอเน้นย้ำให้ประชาชนทุกช่วงวัยดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี และเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
เพื่อป้องกันโรคและลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาว ซึ่งจะนำไปสู่การมีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์
ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สุขภาพช่องปาก
เป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพดีโดยรวมอย่างยั่งยืนของทุกกลุ่มวัย สถาบันทันตกรรม จึงมุ่งมั่นพัฒนาการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้เทคโนโลยีบริการทางทันตกรรมเฉพาะทางผสานกับแนวคิดการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมและทีมทันตแพทย์สหสาขาที่พร้อมให้บริการทันตกรรมขั้นสูง ทั้งการทำฟันเทียม รากฟันเทียม และการรักษาโรคทางทันตกรรมที่ซับซ้อน โดยการดูแลสุขภาพช่องปากสามารถเริ่มได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด แม้ในช่วงที่ยังไม่มีฟัน การเช็ดเหงือกและลิ้นด้วย
ผ้าสะอาดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ช่องปากสะอาดและลดการสะสมของเชื้อโรค เมื่อฟันน้ำนมเริ่มขึ้น ควรใช้แปรงขนอ่อนนุ่มร่วมกับยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และฝึกให้เด็กแปรงฟันวันละสองครั้งโดยมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด ในช่วงวัยรุ่น วัยทำงาน
และผู้สูงอายุ ควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ รวมถึงสังเกตความผิดปกติในช่องปาก หากมีอาการปวด เสียวฟัน หรือเหงือกบวม ควรพบทันตแพทย์โดยไม่รอให้รุนแรง ทั้งนี้ทุกช่วงวัยควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถรับประทานอาหารได้ดีและส่งผลต่อการมีสุขภาพกายและใจที่ดีต่อไป
*******************************************
#กรมการแพทย์ #สถาบันทันตกรรม #การดูแลสุขภาพช่องปาก #วันทันตสาธารณสุข
- ขอขอบคุณ – 21 ตุลาคม 2568
