สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯพระราชทานเครื่องล้างไตเทียมและเครื่องช่วยหายใจชนิดความถี่สูงใช้ในเด็กแรกเกิด จากเงินรายได้ของเที่ยวบินมหากุศล แก่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ช่วยยืดอายุผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ป่วยโรคนี้หากไม่ได้รับการรักษาจะเสียชีวิตภายใน 3 เดือน ขณะนี้คาดว่า ทั่วประเทศมีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 14,000 ราย ต้นเหตุมาจาก 4 โรคสำคัญ
บ่ายวันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2550) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงเยี่ยมโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยมีนายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ สุวัจน์ เฑียรทอง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ตรวจราชการประจำเขต 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายแพทย์ทรงวุฒิ ทรัพย์ทวีสิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และข้าราชการเจ้าหน้าที่ เฝ้าฯรับเสด็จ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารและพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเยี่ยมหน่วยไตเทียมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2545 เป็นต้นมา ทอดพระเนตรการปฏิบัติการของศูนย์ไตเทียม โดยขณะนี้มีเครื่องฟอกไตเทียมทั้งหมด 10 เครื่อง มีแพทย์ประจำหน่วย 1 คนและพยาบาลวิชาชีพ 3 คน ให้บริการฟอกไตวันละ 2 รอบ ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังรับบริการ 29 ราย อายุมากที่สุด 72 ปี น้อยที่สุดอายุ 27 ปี และยังมีผู้ป่วยรอคิวเพื่อรับการฟอกเลือดอีก 15 ราย โดยต้องใช้เวลารอคิวประมาณ 6 -12 เดือน ในการนี้ได้พระราชทานเครื่องล้างไตเทียมพร้อมระบบน้ำและอุปกรณ์การแพทย์ จากเงินรายได้ของเที่ยวบินมหากุศล ในโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว กองทุนพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติจำนวน 1 เครื่อง และเครื่องช่วยหายใจชนิดความถี่สูงใช้ในเด็กทารกแรกเกิด 1 เครื่องแก่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก รวมมูลค่า 2,030,000 บาท จากนั้นทอดพระเนตรการดำเนินการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากผู้ก่อความไม่สงบจำนวน 3 ราย และพระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ป่วยด้วย
นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เครื่องไตเทียมที่ได้รับพระราชทานในวันนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และกระทรวงสาธารณสุขอย่างหาที่สุดมิให้ เนื่องโรคไตวายเรื้อรังเป็นความทุกข์ทรมานเนื่องจากไตทั้ง 2 ข้างหยุดทำงาน ไม่สามารถขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ ผู้ป่วยโรคนี้หากไม่ได้รับการรักษา จะเสียชีวิตภายในเวลา 3 เดือน สาเหตุสำคัญกว่าร้อยละ 75 เกิดจาก 4 โรคได้แก่ โรคเบาหวาน ไตอักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง และนิ่วในไต โดยผู้ป่วยที่ อ.สุไหงโก-ลก สาเหตุส่วนใหญ่ร้อยละ 72 เกิดมาจากโรคความดันโลหิตสูง รองลงมาได้แก่ โรคเบาหวาน
ทั้งนี้ในปี 2547 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยไตวายเข้ารับการรักษารวมเกือบ 1 แสนราย และคาดการณ์ว่าแต่ละปีจะมีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 14,000 ราย เมื่อเกิดปัญหาไตวายแล้ว จะรักษาให้หายได้ยาก ต้องใช้วิธีการฟอกเลือดเพื่อยืดอายุและรอการเปลี่ยนไต ค่ารักษาสูงมาก เสียค่าฟอกเลือดครั้งละประมาณ 20,000-30,000 บาทต่อคนต่อเดือน โดยขณะนี้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปของกระทรวงสาธารณสุขมีบริการทุกแห่งแล้ว
ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาของผู้ที่เป็นโรคไตวายคือการสิ้นเนื้อประดาตัว เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฟอกเลือดสูงมากปีละประมาณ 250,000 บาทต่อคน โดยต้องฟอกเลือดอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ดังนั้นมาตรการป้องกันไม่ให้ประชาชนไทยป่วยเป็นโรคไตวายนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะเน้นที่การป้องกันโรค โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ซึ่ง 2 โรคนี้จะมีผลแทรกซ้อนทำให้เกิดโรคไตวายได้ถึง 90 เปอร์เซนต์ หากไม่ดูแลรักษาตัวแต่เนิ่นๆ
โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้น จะเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ ควรตรวจสุขภาพประจำทุกปีได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อค้นหาความผิดปกติ ที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่อยู่ในวัยนี้เป็นโรคความดันโลหิตสูง 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นโรคเบาหวานประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นประชาชนจะต้องปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้เป็นโรคดังกล่าว โดยออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันละ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ ลดอาหารหวานจัดหรือเค็มจัด ลดอาหารที่มีไขมันสูง ขอให้เพิ่มการกินผักผลไม้ให้ได้ครึ่งหนึ่งของอาหารแต่ละมื้อ ในรายที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงแล้ว จะต้องปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนตามมา
ทั้งนี้สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าไตเริ่มมีปัญหาหรือทำงานผิดปกติ ได้แก่ ปัสสาวะมีฟองมาก บวมตามขา เปลือกตา หรือบวมทั้งตัว ปัสสาวะมีเลือดปน หรือปัสสาวะมากกว่า 3 ลิตรต่อวัน ควรรีบพบแพทย์ตรวจโดยเร็ว นายแพทย์ปราชญ์ กล่าว
View 18
03/02/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ