อย. ผนึกกำลังบุคลากรเดินหน้าขับเคลื่อนด้านฉลากอิเล็กทรอนิกส์เครื่องสำอางและวัตถุอันตราย รับเศรษฐกิจสุขภาพตามโมเดล BCG
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
- 84 View
- อ่านต่อ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เดินหน้ารณรงค์เข้มข้นทั่วประเทศ เน้นหลัก 5 ป. 1 ข. ปราบลูกน้ำยุงลาย สกัดการระบาดของโรคไข้เลือดออกในชุมชน พร้อมย้ำให้ประชาชนตระหนัก “ไข้เลือดออกไม่ใช่เรื่องไกลตัว” โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีความเสี่ยงสูง
ดร.นพ.อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ว่า จากข้อมูลการระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยกรมควบคุมโรค เผยว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 11 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 14,783 ราย เสียชีวิต 15 ราย กลุ่มที่พบมากที่สุด เด็กวัยเรียนอายุ 5-14 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15- 24 ปี การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค โดยต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยลดการระบาดของโรคไข้เลือดออกในชุมชน ซึ่ง อสม. เป็นภาคส่วนที่มีความใกล้ชิดกับชุมชนในฐานะหมอคนที่ 1 เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานป้องกัน โรค กรม สบส. จึงประสานขอความร่วมมือไปยังเครือข่าย อสม.ทั่วประเทศ ออกรณรงค์ มุ่งสร้างความตระหนักรู้ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกและวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง โดยเน้นหลัก 5ป. 1ข. ปราบยุงลาย ป้องกันไข้เลือดออก คือ ป 1 - ปิด ภาชนะเก็บกักน้ำให้มิดชิด ป 2 - เปลี่ยน น้ำในภาชนะต่างๆ อยู่เสมอๆ เพื่อไม่ให้มีแหล่งน้ำที่ยุงสามารถไปเพาะพันธุ์ได้ ป3 - ปล่อย ปลากินลูกน้ำในภาชนะใส่น้ำถาวร ป4 - ปรับปรุง สิ่งแวดล้อมรอบข้างให้ปลอดโปร่ง ป5 - ปฏิบัติ และสุดท้ายคือ ข - ขัด ขัดล้างไข่ยุงลายในภาชนะที่มีน้ำขังให้หมด เพื่อกำจัดการเพาะพันธุ์และการวางไข่ของยุงลาย และขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบและดูแลบริเวณบ้านของตนเองอยู่เสมอ เพื่อสร้างชุมชนปลอดยุงลาย และลดความเสี่ยงจากโรคไข้เลือดออกอย่างยั่งยืน
“กรม สบส. ขอย้ำว่า ไข้เลือดออกยังคงเป็นภัยใกล้ตัว โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำขังตามภาชนะต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่สำคัญ การควบคุมโรคต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ อสม. ซึ่งใกล้ชิดกับประชาชนในระดับครัวเรือน ถือเป็นหมอคนที่หนึ่งในชุมชน มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารความรู้ และเฝ้าระวังโรคให้เกิดการป้องกันอย่างยั่งยืน”
ดร.นพ.อดิสรณ์ กล่าว
ด้าน นายจรัส รัชกุล ผู้อำนวยการกองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออก ขอให้ประชาชนสังเกตอาการป่วยของบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการไข้สูงเฉียบพลัน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาจพบจ้ำเลือดตามผิวหนัง หรือเจ็บชายโครงด้านขวา ขอให้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า อาจป่วยด้วยอาการของ
โรคไข้เลือดออก ให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง และให้แจ้งกับ อสม.ใกล้บ้าน เพื่อให้ อสม.ได้ทำการบันทึกและส่งต่อข้อมูลการระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยใช้ “แอปพลิเคชัน SMART อสม.” แก่หน่วยบริการสาธารณสุข เพื่อเข้าดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและดูแลสุขภาพชาวชุมชนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ระยะก่อนเกิดโรค ระยะเกิดโรค และระยะหลังการเกิดโรค เพื่อป้องกันประชาชนไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก