5 ทศวรรษ อย. บนเส้นทางคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ พร้อมเดินหน้าพัฒนาทุกมิติ ขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทยให้มั่นคงและยั่งยืน
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
- 16 View
- อ่านต่อ
วานนี้ (2 ธันวาคม 2567) กรมอนามัยจัดสัมมนาวิชาการหัวข้อ “กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขกับการจัดการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก” เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยมี นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่คุณศุมล ศรีสุขวัฒนา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย คุณวิเชษฐ จินานุรักษ์ ตัวแทนเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คุณสำราญ เชื้อเมืองพาน จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และคุณสกุณา คุณวโรตม์ จากกองกฎหมาย กรมอนามัย มาร่วมให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดำเนินงานในพื้นที่
การสัมมนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน จากทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ ศูนย์อนามัยที่ 1-12 สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจัดในรูปแบบผสมผสาน ทั้งการประชุมในสถานที่ ณ ห้องประชุมกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย และระบบ Video Conference
นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม กล่าวถึงความสำคัญของการสัมมนาครั้งนี้ว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เป็นวาระแห่งชาติที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่เห็นชอบมาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 ได้เน้นย้ำความสำคัญของการยกระดับการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมกิจกรรมและแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในป่า พื้นที่เกษตรกรรม และเขตเมือง การใช้กฎหมายสาธารณสุขเป็นเครื่องมือในการควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองตั้งแต่ต้นทาง และจัดการเหตุรำคาญในพื้นที่ เป็นมาตรการสำคัญในการลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง
การสัมมนาครั้งนี้ได้เน้น 4 แนวทางสำคัญ ได้แก่ 1) การรู้ข้อมูล วิเคราะห์ปัญหาและวิธีจัดการ 2) การเข้าใจบทบัญญัติ กลไกและแนวทางการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ 3) การเข้าถึงข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คำปรึกษาและสนับสนุนการแก้ไขปัญหา และที่สำคัญคือต้องการสร้างการรับรู้ ความตระหนักและสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายและประชาชนในพื้นที่ ผลการสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอด สื่อสาร และเป็นแนวทางในการพัฒนาและขับเคลื่อนการนำกฎหมายสาธารณสุขไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
***
กรมอนามัย / 2 ธันวาคม 2567