ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ประจำปีงบประมาณ 2568  ณ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้ารับเสด็จ และเข้าร่วมประชุม โดยผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2567 ภายใต้โครงการ “ใครติดยายกมือขึ้น” มีสมาชิกเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงฯ 74,453 คน ผู้ผ่านการบำบัดที่ติดตามได้ หยุดเสพและเลิกยาได้ 42,955 คน และกลับไปเสพซ้ำเพียง ร้อยละ 0.18

วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2567) เวลา 16.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ทรงเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางสาวศุภมาศ อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายสุรศักด์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  นพ.สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ตลอดจนผู้บริหารสื่อและประชาสัมพันธ์ เฝ้ารับเสด็จและเข้าร่วมการประชุม

นายสมศักดิ์ ได้กราบทูลรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE จัดขึ้นเป็นประจำ ปีละ 1 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2547 สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการได้กราบทูลรายงานผลการดำเนินงาน ในปี 2567 นโยบายและแผนการดำเนินงาน ปี 2568 รวมทั้งให้คณะกรรมการจากทุกภาคส่วนรับทราบแนวทางการดำเนินงานและนำไปดำเนินการสนองพระดำริและพระประสงค์ เกิดการบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนเป็นขวัญและกำลังใจแก่คณะกรรมการที่จะร่วมมือปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ให้บรรลุผลสำเร็จตามแนวทางพระราชทาน

สำหรับผลการดำเนินงาน ปี 2567 ได้มอบหมายให้ กรมสุขภาพจิต ทำหน้าที่เลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ทำหน้าที่เลขานุการโครงการระดับจังหวัด เพื่อดำเนินงานตามแนวทางพระราชทานอย่างดีที่สุด รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติม เพื่อดำเนินงานสนองพระดำริ และสนับสนุนการจัดบริการบำบัด รักษา และฟื้นฟูสมาชิก ภายใต้โครงการ “ใครติดยายกมือขึ้น”  ในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีสมาชิกเข้ารับการบำบัดรักษา 74,453 คน คิดเป็นร้อยละ 36.01 สมาชิกที่ผ่านการบำบัดที่ติดตามได้ หยุดเสพและเลิกยาได้ 42,955 คน และมีผู้กลับไปเสพซ้ำเพียง 376 คน หรือ ร้อยละ 0.18 ซึ่งต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกฯ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด ในปีงบประมาณ 2568 กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายในการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด และการเป็นสมาชิก TO BE NUMBER ONE โดยมีแผนการจัดเตรียมงบประมาณ แผนงานพัฒนาระบบการคัดกรอง การบำบัดรักษา และการฟื้นฟูสมรรถภาพ ตลอดจนการติดตามหลังการบำบัดรักษาในทุกมิติ พร้อมกับให้ความช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติ ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 และการสนับสนุนโครงการ TO BE NUMBER ONE

ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กราบทูลรายงานผลงานและกิจกรรมเด่นว่า ปัจจุบัน มีสมาชิก TO BE NUMBER ONE และสมาชิกใครติดยายกมือขึ้น ทั่วประเทศ 29,930,652 คน, มีเยาวชนเข้าร่วม   การประกวด TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE จำนวน 307 ทีม รวม 9,500 คน, จัดประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE (TO BE NUMBER ONE IDOL) เพื่อเป็นต้นแบบให้กับสมาชิกทั่วประเทศ ดำเนินงานมาแล้ว 14 รุ่น รุ่นละ 40 คน, จัดตั้งอำเภอ TO BE NUMBER ONE ตั้งแต่ปี 2561 โดยสามารถพัฒนาศักยภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ได้รับรางวัลระดับประเทศ จำนวน 103 อำเภอ, จัดตั้งเขต TO BE NUMBER ONE กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2564 ครบทั้ง 50 เขต เข้าร่วมประกวด 48 เขต ได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ 8 เขต, จัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ สถานพินิจฯ เรือนจำ/ทัณฑสถาน และสำนักงานคุมประพฤติ ทั่วประเทศ รวม 77,178 แห่ง, จัดตั้งศูนย์เพื่อนใจ TO BE    NUMBER ONE  ทั่วประเทศ 12,501 แห่ง และศูนย์เพื่อนใจฯ ในห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อีก 4 แห่ง มีผู้ใช้บริการรวม 46,733 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 10.6

นอกจากนี้ ยังได้จัด “ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง” หรือ “TO BE  NUMBER ONE CAMP” ปีละ 2 ครั้ง พบว่า กิจกรรมในค่ายทำให้สมาชิกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น  การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ทันคติเชิงบวก สามารถนำความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่ได้พัฒนาไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนๆ สมาชิกในโรงเรียนและชุมชนของตนเอง จนเป็นที่ยอมรับในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งมีการผลิต พัฒนา และปรับปรุงสื่อองค์ความรู้สำหรับแกนนำและสมาชิก, จัดสัมมนาเครือข่าย TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2567, จัดประกวดผลงานจังหวัด อำเภอ เขตกรุงเทพมหานคร และชมรม TO BE NUMBER ONE ในระดับภาค รวม 5 ภาค มีผู้เข้าร่วมประกวดผลงาน 1,461 แห่ง ตลอดจนจัดประกวดผลงานจังหวัด อำเภอ เขตกรุงเทพมหานคร และชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 12-15 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากองค์ประธาน เสด็จเยี่ยมชมนิทรรศการ พระราชทานรางวัล และ ทรงร่วมแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 22 ปี TO BE NUMBER ONE

 ************************************************** 12 พฤศจิกายน 2567

 

 



   
   


View 644    12/11/2567   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ