วันจันทร์ ที่ 23 กันยายน 2567 เวลา 08.00 น. ดร.นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี พร้อมผู้บริหารและ คณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เข้าแถวเคารพธงชาติและสวดมนต์ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล ร่วมกล่าวคำปฏิญาณตนการเป็นข้าราชการที่ดี จากนั้นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้ให้โอวาท มีข้อสั่งการและเรื่องแจ้งเพื่อทราบ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงปิดปีงบประมาณ และการเกษียณอายุราชการของบุคลากรหลายท่าน เช่น นางนงนภัส ขันธ์ดวง กลุ่มงานอวล. นายเรวัฒน์ ศิรินิกร รองนพ.สสจ. สังเกตว่าท่านเข้าร่วมกิจกรรมเข้าแถวงเคารพธงชาติอย่างสม่ำเสมอ ก็ขอชื่นชม ตลอดพวกเราที่มาร่วมกิจกรรมในเช้านี้ที่ได้มาร่วมซึ่งตรงนี้ย่อมบ่งบอกถึงการเป็นข้าราชการ เป็นเจ้าหน้าที่ที่คุณภาพ มีความตั้งใจ แต่มิได้หมายความว่าท่านที่ไม่ได้มาร่วมไม่ได้ตั้งใจ แต่อาจะเพราะหลายคนอาจมีภารกิจส่วนตัวที่จำเป็น, ในปีงบประมาณ 2568 ได้มีนโยบายเป็นเบื้องต้นว่าอาจจะมีการจัดระบบการทำงานให้คล่องตัวยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็ได้เห็นหลายๆ จุด ที่สามารถพัฒนาได้ โดยเฉพาะในเรื่องการทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี การนำเสนอผลงาน การประชุม กวป.เป็นต้น ซึ่งจะได้ขยายผลทางปฏิบัติในโอกาสต่อไป ,การสร้างบรรยากาศการทำงานให้ดีขึ้น อย่างกรณีการนำ AI เข้ามามีส่วนในการพัฒนารูปแบบงานมีทั้งข้อดีข้อจำกัด อย่างไรก็ตามก็กำงใจและขอให้เตรียมตัวให้เป็นผู้รู้เท่าทันโดยเฉพาะต่อเนื้องาน และในปีงบประมาณที่ผ่านมาก็ขอให้ทุกฝ่ายได้นำข้อมูลงานที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย มาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาแนวทางรูปแบบใหม่ๆ วางแผนให้ดียิ่งขึ้น ,แจ้งภารกิจที่สำคัญพรุ่งนี้ นอกจากการประชุมวิชาการ สสจ.อด ที่ศูนย์ประชุมมลทาทิพย์ ก็มีกิจกรรมวันมหิดล จัดที่ รพ.อุดรธานี มีการทำบุญตักบาตร การวางพวงมาลา ซึ่งดังที่ทราบสำหรับพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระราชบิดาและสมเด็จย่าที่ประดิษฐ์สถาน ณ รพ.อุดรธานีนี้ สำเร็จลุล่วงโดยดีโดยอาศัยความร่วมมือของทุกๆ ฝ่ายในการก่อสร้างนั้นก็ได้ทำเรื่องขออนุญาตจากสำนักพระราชวัง และปัจจุบันก็ประดิษฐ์สถานหน้า รพ.อุดรธานี อย่างสง่างาม ทั้งนี้เห็นว่า หากได้มีบันทึกการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของการก่อสร้าง บุคคลสำคัญในยุคสมัยที่ดำริในการก่อสร้างด้วย ข้อมูลเหล่านี้สิ่งจะทำให้เกิดความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น วันนี้ พวกเราต้องยอมรับว่าคนในชาติต้องยึดมั่นในหลักเรื่องความสามัคคี ปัจจุบันหากมองในมิติหนึ่งจะเห็นว่า พวกเราไม่ได้ถูกรุกโดยคนต่างชาติแต่พวกเราต่างหากที่ต่างรุกต่อพวกเรากันเอง ดังนั้น เรื่องความรัก ความสามัคคีของชนในชาติจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากคนในชาติอาศัยจุดแข็งของความเป็นคนไทย คือการยึดมั่นในความดีงามที่ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น จากรุ่นปู่ รุ่นพ่อแม่เรา และสู่รุ่นเราในปัจจุบัน และส่งต่อรุ่นลูกๆ ของเราในอนาคต ย่อมจะสร้างความเข้มแข็งของความสามัคคีในชาติให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ได้ ซึ่งถึงจุดนี้หากสรุปเข้าสู่การทำงานของพวกเรา คงสรุปได้ว่าคนเราจะเก่งอย่างเดียวคงยังไม่พอ ต้องมีความดีหล่อหลอมฝังลึกในตัวตน ในจิตวิญญาณเข้าร่วมมาด้วย ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า งานจะสำเร็จได้ด้วยดีต้องเริ่มจากการเป็นคนดีก่อน แล้วคนดีพยายามหาโอกาสเพื่อให้ได้ทำงานใกล้กับคนเก่ง และคนดีคนเก่งคนนี้ทำงานอย่างมีความสุข ดังนั้น คนดี คนเก่ง และคนมีความสุข จึงเป็นเรื่องที่ขอให้บังเกิดมีขึ้นในตัวตนของพวกเราทุกคนไม่ประสงค์เห็น จนท.เราทำงานด้วยหน้าตาเคร่งเครียด อยากเห็นใบหน้าที่มีความสุข หากนึกภาพใบหน้าคนมีความสุขไม่ออก ลองนึกถึงภาพใบหน้าพระอริยสงฆ์ พ่อแม่ครูอาจารย์ที่ดวงหน้าของท่านเหล่านั้นจะดูปีติสุขตลอดเวลา ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมประจำทุกเช้าวันจันทร์ เพื่อสร้างความสามัคคี และดำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ณ บริเวณลานเสาธงหน้าตึกอำนวยการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี
View 103
23/09/2567
ข่าวรอบรั้วภูมิภาค
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี