กระทรวงสาธารณสุข มอบเงิน 4 ล้านบาทที่รัฐบาลจีนสนับสนุนให้แก่รัฐบาลไทย ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้ซานติก้าผับ และมีค่าใช้จ่ายสูง จำนวน 18 ราย พร้อมนำเงินที่เหลืออีก 11 ล้านบาท จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัย ที่อาจเกิดในอนาคต และจัดทำสื่อให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันภัยจากไฟไหม้ วันนี้ (14 กันยายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายกว่าน มู่ (H.E. Mr. Guan Mu) เอกอัคราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานเพราะเราห่วงใย เพื่อมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับ และแสดงความขอบคุณรัฐบาลจีน คณะแพทย์ พยาบาล และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ให้ความช่วยเหลือดูแล รักษาพยาบาลผู้ประสบภัยอย่างดี มีผู้ประสบภัย ญาติและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงาน 150 คน โดยได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว จำนวน 18 ราย เป็นเงิน 4 ล้านบาทเศษ นายมานิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับ เมื่อช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 ซึ่งมีผู้บาดเจ็บถูกไฟไหม้ สำลักควันไฟทั้งหมด 229 ราย เสียชีวิต 64 ราย กระทรวงสาธารณสุขต้องขอขอบคุณแพทย์ พยาบาล หน่วยกู้ภัย และทุกฝ่าย ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือผู้บาดเจ็บดังกล่าว โดยรัฐบาลจีนได้มอบความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไทย 2 ส่วน ส่วนแรกได้จัดส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแผลไฟไหม้ขั้นรุนแรง จำนวน 3 คน จากโรงพยาบาลจีสุ่ยถาน กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการรักษาผู้ป่วยแผลไฟไหม้ มาช่วยวางแผนดูแลรักษาผู้ถูกไฟไหม้ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของไทย เพื่อให้ผู้บาดเจ็บได้รับการรักษาที่ดีที่สุด และส่วนที่ 2 ได้สนับสนุนเงินมูลค่า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 17 ล้านบาท ช่วยรัฐบาลไทย เพื่อจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และใช้จ่ายตามความเหมาะสม ถือเป็นไมตรีจิต ความจริงใจที่ประเทศเพื่อนบ้านมีให้กัน นายมานิต กล่าวต่อว่า สำหรับเงินที่รัฐบาลจีนมอบให้นั้น กระทรวงสาธารณสุขได้จ่ายอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ที่สุดในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้ และพัฒนามาตรฐานบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยประเภทนี้ โดยได้นำมาจัดประชุมวิชาการและวิจัยเพื่อพัฒนาการดูแลผู้ป่วยไฟไหม้ อุบัติเหตุ จำนวน 700,000 บาท ให้กรมการแพทย์และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ จัดทำสื่อเรื่องการป้องกันภัยจากเพลิงไหม้ เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้สถานบริการและสถานศึกษาต่างๆ ในระยะยาว จำนวน 1.2 ล้านบาท และให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่มีค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงมากและไม่มีสวัสดิการใดๆ จำนวน 18 ราย เป็นเงิน 4,381,459 บาท โดยยังมีเงินเหลืออีก 11,152,168 บาท จึงได้นำมาจัดตั้งเป็นกองทุน เพื่อใช้จ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุ อุบัติภัยจากทุกสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อยู่ในความดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ด้านนายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการรักษาบาดแผลไฟไหม้ โดยเฉพาะในรายที่รุนแรง เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเวลา ทำให้มีค่ารักษาพยาบาลสูงมาก ขณะนี้ผู้ประสบภัยหลายคน ยังต้องรักษาต่อเนื่องเพื่อแก้ไขความพิการจากแผลไฟไหม้ ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ทั้งของผู้ป่วยและครอบครัวอย่างมาก โดยมีผู้บาดเจ็บติดต่อขอรับความช่วยเหลือค่ารักษาจากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งหมด 21 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เจรจากับโรงพยาบาลเอกชนที่ให้การรักษา ให้ช่วยลดค่ารักษาพยาบาล และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ******************************** 14 กันยายน 2552


   
   


View 10       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ