รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายการบริหารจัดการงบประมาณในปี 2551 ที่ได้รับทั้งหมดกว่า 1 แสนล้านบาท เน้นที่ประสิทธิภาพ คุ้มค่า ตรงเวลา โดยเน้นหนักที่ 6 นโยบายสำคัญ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์ ต้องให้บรรลุผลสำเร็จ
วันนี้ (25 ตุลาคม 2550) ที่โรงแรม บี พี สมิหลา บีช แอนด์ รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 75 จังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป รวมทั้งผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล ผู้อำนวยการวิทยาลัยการสาธารณสุข และกรมวิชาการต่างๆ ประมาณ 400 คน เพื่อมอบนโยบายการทำงานและการการบริหารจัดการงบประมาณประจำปี 2551 ที่ได้จากภาษีของประชาชน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
นายแพทย์มงคล กล่าวว่า การบริหารจัดการงบประมาณ นับเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานหน่วยงานภาครัฐ เพื่อจัดบริการประชาชนโดยรวมให้ทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2551 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้รับจัดสรรงบจำนวน 142,192 ล้านบาท ซึ่งรวมงบกองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติด้วยคิดเป็นร้อยละ 8.57 ของงบประมาณภาพรวมทั้งประเทศที่รัฐบาลได้จัดสรรจำนวน 1.66 ล้านล้านบาท โดยค่าเหมาจ่ายรายหัวในปีนี้เพิ่มจาก 1,896 บาทเป็น 2,100 บาท หากไม่รวมงบกองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขได้รับทั้งหมด 65,434 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 3.94 ของงบประมาณทั้งประเทศ ในจำนวนนี้เป็นงบเงินเดือนเจ้าหน้าที่ถึงร้อยละ 76 จึงต้องควบคุมกำกับการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ทันเวลา
นายแพทย์มงคล กล่าวต่อว่า นโยบายที่สำคัญที่จะเน้นหนักในปีงบประมาณ 2551 มี 6 เรื่อง ได้แก่ 1.งานที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์ ให้ถือเป็นความสำคัญอันดับต้นและต้องทำให้สำเร็จลุล่วง 2. งานสาธารณสุขใน 3 จังหวัดภาคใต้ต้องได้รับการจัดการดูแลแบบพิเศษ 3. การเร่งรัดออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ยังค้างประมาณ 8 ฉบับ เช่น พรบ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พรบ.สุขภาพจิต 4. การกระจายอำนาจ เร่งรัดให้ ร.พ.ป่าตองออกนอกระบบ การถ่ายโอนสถานีอนามัย 35 แห่ง และเตรียมการขยายการถ่ายโอนไปอบต.ที่มีกองทุนสุขภาพชุมชน 5. การสร้างหลักประกันสุขภาพ เน้นการขยายการรักษาไตวาย โดยการฟอกไตทางช่องท้อง และการรักษาพยาบาลในภาวะฉุกเฉิน การเพิ่มบริการป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพเพื่อลดการเจ็บป่วย และ 6. การควบคุมป้องกันโรคที่สำคัญ ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไข้หวัดใหญ่ และโรคเอดส์ ทั้งนี้ จะเร่งตั้งโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในระดับอุตสาหกรรม
ซึ่งในปี 2551 นี้ องค์การเภสัชกรรมได้รับงบประมาณก่อสร้างโรงงานและงบออกแบบ 78 ล้านกว่าบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบตามมาตรฐานจีเอ็มพีขององค์การอนามัยโลก คาดว่าจะได้แบบเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และตั้งโรงงานผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ในประเทศ ซึ่งจะทำให้คนไทยได้บริโภคยาที่มีคุณภาพดีและราคาถูกกว่าเดิม
ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขในปีที่ผ่านมา พบว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ค่อนข้างล้าช้า ในปีนี้จึงได้ตั้งคณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบ 1 คณะ และกำหนดให้หน่วยงานต่างๆ ก่อหนี้ผูกพันให้ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550
View 11
25/10/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ