กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาระบบบริการด้านมะเร็ง ขยายบริการเคมีบำบัดและรังสีรักษาบริการรังสีรักษาในโรงพยาบาลศูนย์อีก 5 แห่ง และเปิดอาคารรังสีรักษาโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ให้บริการรักษาโรคมะเร็งครบวงจร เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด อุบัติเหตุ ทารกแรกเกิด และปลูกถ่ายอวัยวะของภาคเหนือตอนล่างภายในปี 2565 ลดการส่งต่อรักษานอกเขต ลดค่าใช้จ่ายผู้ป่วยและญาติ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย 

วันนี้ (8 สิงหาคม 2560) ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดอาคารรังสีรักษา โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้พัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาโรคมะเร็ง ซึ่งในแต่ละปีแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์ในระยะที่ไม่สามารถรักษาหายด้วยการผ่าตัดอย่างเดียว จำเป็นต้องรักษาด้วยยาเคมีบำบัดหรือรังสีรักษาร่วมด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลในกทม.และเมืองใหญ่ ทำให้ประชาชนรอคอยการรักษานาน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มีในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปรวม 96 แห่งที่สามารถให้บริการเคมีบำบัด และโรงพยาบาลศูนย์ที่สามารถให้บริการรังสีรักษา 5 แห่ง ได้ตั้งเป้าหมายภายในปี 2565 จะขยายการให้บริการเคมีบำบัดในโรงพยาบาลทั่วไปเพิ่มอีก 20 แห่ง และบริการรังสีรักษาในโรงพยาบาลศูนย์อีก 5 แห่ง เพื่อให้ประชาชนได้รับการตรวจรักษาใกล้บ้าน ลดระยะเวลาการรอคอย เพิ่มโอกาสการรอดชีวิต
 
โรงพยาบาลสวรรคประชารักษ์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาด 659 เตียง เป็นโรงพยาบาลเป้าหมายการพัฒนาระบบบริการของเขตสุขภาพที่ 3 ได้แก่ กำแพงเพชร อุทัยธานี ชัยนาท พิจิตร และนครสวรรค์ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านพื้นที่บริการ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้สนับสนุนงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาทในการก่อสร้างโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (เขาเขียว) แห่งใหม่ ขนาด 520 เตียง เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง อุบัติเหตุ ทารกแรกเกิด และปลูกถ่ายอวัยวะ ของภาคเหนือตอนล่างภายในปี 2565 สำหรับการพัฒนาให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง ตั้งเป้าหมายให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งอย่างครบวงจร ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด และการฉายแสง ด้วยข้อจำกัดที่ผ่านมาในการรักษาด้วยรังสีรักษา จึงส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งไปยังโรงพยาบาลนอกเขตสุขภาพ คิดเป็นร้อยละ 50 ของผู้ป่วยที่ส่งต่อเพื่อรักษาทั้งหมด จึงเปิดหน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (เขาเขียว) เริ่มให้บริการฉายรังสีแบบประคับประคองเพื่อบรรเทาอาการในผู้ป่วยมะเร็งที่มีการแพร่กระจายรายแรก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 
 
ปัจจุบัน หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์(เขาเขียว) สามารถให้การรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยการฉายแสงกว่า 700 คน ผู้รับบริการมีความพึงพอใจมาก ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากการฉายแสงที่เหมาะสมและทันเวลา ลดการส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งเหลือเพียง 350 คนจากเดิมปีละเกือบ 2,000 คน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของผู้ป่วยและญาติ และผ่านการประเมินขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการตติยภูมิ เฉพาะด้านรังสีรักษา ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2560 มีบุคลากร แพทย์รังสีรักษา 2 คน นักฟิสิกส์รังสี 1 คน นักรังสีรักษา 3 คน และมีแพทย์รังสีรักษาที่กำลังศึกษาต่อ 3 คน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ เครื่องฉายรังสี 1 เครื่อง และเครื่องจำลองการฉายรังสีแบบ 2 มิติ 1 เครื่อง ให้บริการฉายรังสีแบบ 2 มิติ ซึ่งมีผู้ป่วยมะเร็งเข้ารับบริการฉายรังสีเพื่อหวังผลหายขาด เช่นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และฉายรังสีเพื่อประคับประคองบรรเทาอาการ เช่นมะเร็งที่มีการแพร่กระจาย เปิดให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 08.00น. - 20.00น. ให้บริการฉายรังสีผู้ป่วยได้วันละ 30-45 คน 
 
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (เขาเขียว) แห่งใหม่ ได้รับบริจาคที่ดิน จำนวน 197 ไร่ จากกองทัพภาคที่ 3 มณฑลทหารบกที่ 31 เพื่อการก่อสร้าง ประกอบด้วยอาคาร 3 ส่วน คือ อาคารรักษาพยาบาลได้แก่ อาคารผู้ป่วยนอก งานอุบัติเหตุ ห้องคลอด ห้องผ่าตัด ห้องปฏิบัติการ ห้องเอกซเรย์  อาคารสนับสนุนบริการ และส่วนอาคารบ้านพักเจ้าหน้าที่ โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ได้เปิดใช้อาคารรังสีรักษาหลังที่ 1 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น  พื้นที่ใช้สอย 644 ตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 18.66 ล้านบาท  ได้รับงบประมาณในการจัดหาครุภัณฑ์ เครื่องฉายแสงจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพ เขต 3 นครสวรรค์ วงเงิน 80 ล้านบาท ได้ติดตั้งพร้อมทดสอบระบบ และผ่านการรับรองจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อพฤศจิกายน 2559 เปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.2560 เป็นต้นมาและวางแผนเปิดให้บริการต่างๆ อาทิ ทันตกรรมและกายภาพบำบัด บริการรักษามะเร็งแบบผู้ป่วยใน ผู้ป่วยในอายุรกรรมและศัลยกรรม เป็นศูนย์เชี่ยวชาญตามแผนการพัฒนาบริการครบวงจรภายในเดือนธันวาคม 2565
***************************** 8 สิงหาคม 2560
 
 
 
 
 
******************************
 


   
   


View 37    08/08/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ