![](https://pr.moph.go.th/assets/uploads/news/2566/apgcqt0vut9o.jpg)
วันนี้ (5 เม.ย. 2560) ที่ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และนาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ร่วมแถลงข่าว เนื่องในวันอนามัยโลก ประจำปี 2560 (World Health Day 2017) “Depression, Let’s talk : ซึมเศร้า...เราคุยกันได้”
นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์สร้างความรู้ ความเข้าใจในการป้องกันและรักษาโรคซึมเศร้าให้กับประชาชน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้ ตลอดจนได้รับความเข้าใจจากคนในครอบครัวและชุมชน ด้วยการเข้าหา รับฟังอย่างตั้งใจและเข้าใจ พร้อมกันนี้ได้กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาโรคซึมเศร้าด้วย 5 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1.ลดอคติ สร้างความตระหนัก สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง 2.ลดการเกิดโรคในผู้ที่เสี่ยงโดยค้นหาและป้องกัน 3.ลดระยะเวลาและความรุนแรงโรค 4.ป้องกันการฆ่าตัวตาย และ5.ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำสำหรับสัญญาณบอกเหตุของโรคซึมเศร้ามี 9 ข้อ ได้แก่ 1.ซึมเศร้า หงุดหงิด ก้าวร้าว 2.ขาดความสนใจสิ่งรอบข้าง 3.ไม่มีสมาธิ 4.อ่อนเพลีย 5.เชื่องช้า 6.รับประทานอาหารมากขึ้น หรือน้อยลง 7.นอนมากขึ้น หรือน้อยลง 8.ตำหนิตัวเอง และ9.พยายามฆ่าตัวตาย หากพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ 5 ข้อติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ ให้สงสัยว่าอาจเป็นโรคซึมเศร้า
ด้าน นายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า โรคซึมเศร้าเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางสุขภาพของประชากรทั่วโลก โรคซึมเศร้านั้นรักษาให้หายได้ นอกจากการรักษาจะส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแล้ว การจัดสรรงบประมาณเพื่อการดูแลรักษาโรคซึมเศร้ายังสร้างความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจอีกด้วย โดยที่ทุกๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จัดสรรเพื่อพัฒนาการรักษาโรคซึมเศร้า สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากสุขภาวะที่ดีของประชาชน และประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น เป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนไทยเกือบหนึ่งล้านคนยังไม่สามารถเข้าถึงการดูแลรักษาโรคซึมเศร้า เนื่องจากอคติทางสังคมต่อผู้ป่วยทางจิตเวช ผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากการที่ไม่ได้รับการรักษานั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นและแก้ไขได้ ดังนั้น เราจึงต้องร่วมมือกันเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกรายจะได้รับการดูแลและรักษาอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ได้รณรงค์เผยแพร่ความรู้ ความตระหนักในการป้องกันและรักษาโรคซึมเศร้าให้กับประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อช่องทางต่างๆ สร้างระบบดูแลเฝ้าระวังโรคซึมเศร้าในระดับจังหวัดพัฒนาคุณภาพการให้บริการ จัดทำฐานข้อมูลออนไลน์เรื่องโรคซึมเศร้า (www.thaidepression.com) เพิ่มศักยภาพของบุคลากรร่วมมือกับเครือข่าย เช่น อสม. ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ดูแลผู้ป่วย เป็นต้น ทำให้อัตราการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.7 ในปี 2551 เป็น 51.49 ในปี 2560นอกจากนี้ ยังมีแผนรณรงค์สร้างความตระหนัก ป้องกันและแก้ไขปัญหาซึมเศร้า ภายใต้แนวคิด “Depression, Let’s talk : ซึมเศร้า...เราคุยกันได้”ตลอดปีนี้ เช่น กิจกรรมเดิน วิ่ง Dance ต้านเศร้า “Mental Health Mini Marathon 2017 การค้นหาและนำผู้มีภาวะซึมเศร้าและผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเข้ารับบริการ โดย อสม. ทั่วประเทศ การประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติและสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2560 เป็นต้น" อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
***************** 5 เมษายน 2560
******************************
View 22
05/04/2560
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ