นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าขับเคลื่อนบูรณาการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต กลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ ตั้งเป้าหมาย “เด็กไทยเติบใหญ่มีคุณภาพ ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม มุ่งสู่ประเทศไทย 4.0” ภายในปี 2564
วันนี้ (30 มีนาคม 2560) ณ ตึกสันติไมตรี ทําเนียบรัฐบาล กทม. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต สำหรับกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ” ระหว่างรัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยาน และผู้บริหารระดับสูงทั้งส่วนกลางและภูมิภาคจาก 4 กระทรวง อาทิ ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคประชาชน ร่วมเป็นเกียรติกว่า 500 คน
การลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ 4 กระทรวง ได้ร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ในกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนยุทธศาสตร์ประเทศด้านสาธารณสุข และยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อรองรับการเป็นสังคมสูงอายุ และความสมดุลของประชากรในวัยต่างๆ ที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี 2564 มีผู้สูงอายุร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 31 หรือ 20.5 ล้านคน ในปี 2583 ขณะที่กลุ่มวัยเด็กและกลุ่มวัยทำงานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุมีแนวโน้มลดลง มีปัญหาเด็กเกิดน้อยด้อยคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อประชากรวัยทำงานที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ตั้งเป้าหมาย “เด็กไทยเติบใหญ่มีคุณภาพ ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม มุ่งสู่ประเทศไทย 4.0” ในปี 2564 ในกลุ่มเด็กปฐมวัยจะร่วมกันพัฒนาให้เป็นเด็กไทย 4.0 มีทักษะ 4H คือ Heart จิตใจดี มีวินัย Head เก่งคิดวิเคราะห์เป็น Hand ใฝ่เรียนรู้ มีทักษะ และ Health สุขอนามัยดี มีสุขภาพแข็งแรง มีเป้าหมายให้ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า 2500 กรัมไม่เกินร้อยละ 7 มีพัฒนาการสมวัยร้อยละ 85 เติบโตเต็มศักยภาพสูงดีสมส่วนร้อยละ 63 ครอบครัวอบอุ่นและชุมชนเข้มแข็งขึ้นร้อยละ 70 ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลมีคุณภาพตามมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติร้อยละ 70 เด็กผ่านการประเมินเตรียมความพร้อมก่อนเข้าชั้นประถมร้อยละ 70 โดยการส่งเสริมศูนย์เด็กเล็กมาตรฐาน สร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว จัดสวัสดิการแก่เด็กที่ยากจนและมีปัญหาทางสังคม สร้างเสริมการเรียนรู้ คู่คุณธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์แก่เด็ก สร้างสภาพแวดล้อม และกลไกการดำเนินงานการพัฒนาเด็กในพื้นที่ จัดระบบบริการอนามัยแม่และเด็กได้มาตรฐานสากล สร้างการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม
สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ จะปฏิรูปสังคมผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามยุทธศาสตร์ 3S คือ Strong สุขภาพแข็งแรง Security มั่นคงปลอดภัย และ Social มีส่วนร่วมในสังคม มีเป้าหมายให้ชมรมผู้สูงอายุคุณภาพผ่านเกณฑ์ร้อยละ 30 ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกแห่ง ผู้สูงอายุที่ต้องการทำงานมีงานทำเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ส่งเสริมพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ จังหวัดละ 1 เมือง เข้าถึงระบบบริการทางสังคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 อัตราผู้สูงอายุที่ปราศจากโรคเพิ่มขึ้น จัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุคุณภาพในโรงพยาบาล 120 เตียงขึ้นไปทุกแห่ง จัดบริการสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร้อยละ 10 ตำบลที่มีระบบ Long Term Care ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 โดยขับเคลื่อนภารกิจพัฒนาคุณภาพชีวิต เพิ่มศักยภาพให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมกิจกรรมสังคม จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้เกิดการเรียนรู้ตามอัธยาศัยในชุมชน และองค์กรศาสนา พัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ สนับสนุนการประกันรายได้ จัดบริการสังคมให้เข้าถึงได้ง่ายและมากขึ้น สร้างพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ จัดบริการสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ให้เข้าถึงบริการที่ใกล้บ้าน
โดย 4 กระทรวงและภาคีเครือข่าย จะร่วมกันผลักดันทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม การสร้างความร่วมมือแบบประชารัฐ เพื่อให้เด็กไทยทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และก้าวสู่วัยสูงอายุที่มีคุณภาพ บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้
******************************* 30 มีนาคม 2560
View 29
30/03/2560
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ