นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการกู้โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันสูบน้ำออกจากโรงพยาบาล และทำความสะอาดตึกผู้ป่วยนอก เพื่อเตรียมพร้อมเปิดให้บริการประชาชนวันพรุ่งนี้ (13 มกราคม 2560) ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขระบบประปาในโรงพยาบาล โดยจะประสานเชื่อมต่อระบบกับการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งการกู้โรงพยาบาลบางสะพานในครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขขอบคุณ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งท้องถิ่น กองทัพ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ ที่ให้การช่วยเหลืออย่างดี

สำหรับการจัดบริการประชาชน วันนี้โรงพยาบาลบางสะพานเปิดจุดบริการเพิ่มอีก 3 จุดที่อบต.กำเนิดนพคุณ  อบต. พงษ์ประสาทและอบต.ทองมงคล รวมกับของเดิม 3 จุด ที่โรงเรียนบางสะพานวิทยา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร่อนทอง และที่วัดธงชัยธรรมจักร บ้านกรูด โดยมีทีมแพทย์พยาบาลสนามหรือทีมMERT จากนอกพื้นที่เข้าร่วมจัดบริการ ส่วนการออกเยี่ยมประชาชนผู้พิการ ผู้ป่วยเรื้อรังมอบให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขเข้าไปดำเนินการให้ได้รับการดูแลต่อเนื่อง ไม่ขาดยา

“ได้เร่งกู้โรงพยาบาลบางสะพานอย่างน้อยให้สามารถเปิดบริการผู้ป่วยนอกได้และเปิดบริการเต็มรูปแบบในวันพรุ่งนี้(13 มกราคม 2560) เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสะดวก มียาเวชภัณฑ์ครบ นอกจากนี้ ได้ระดมทีมแพทย์พยาบาลสนามฉุกเฉินจากนอกพื้นที่ทั่วประเทศเข้าสับเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่มีอยู่ 350 กว่าคน ร้อยละ 80 ประสบภัยน้ำท่วมบ้านเช่นกัน ให้เขามีเวลาได้กลับไปกู้บ้าน ดูแลครอบครัว ไม่ต้องห่วงเรื่องการบริการประชาชน ขณะนี้เข้าไปช่วยแล้ว 10 ทีม พร้อมเข้าไปสับเปลี่ยนทันทีอีก20 ทีม”นพ.โสภณ กล่าว 

 
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ในการดูแลประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้ดูแลครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ป้องกันควบคุมโรค โดยโรคทางกายมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้รวม 148 ทีม มีผู้รับบริการ 22,505 คน ด้านจิตใจมีทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต หรือทีม MCATT ลงไปดูแลประชาชนร่วมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มีผู้รับบริการ 2,230 คน พบมีภาวะเครียด 152 คน ให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติตัว ทั้งนี้ กำชับให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้มีปัญหาโรคทางจิตเวช ผู้ประสบความเสียหายหรือสูญเสียรุนแรง   
 
ด้านการดูแลสภาพจิตใจ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยดูแลจิตใจตนเองในระยะนี้ ดังนี้ 1.ขอให้ตั้งสติ มองทุกปัญหาว่ามีทางแก้ไข 2.หากรู้สึกท้อใจให้ค้นหาแหล่งสร้างกำลังใจให้กับตนเอง ได้แก่ ความรัก ความผูกพันในครอบครัว ความศรัทธาทางศาสนา 3.หาวิธีผ่อนคลายความเครียด ด้วยวิธีต่างๆ เช่น บริหารร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกหายใจคลายเครียดและทักษะผ่อนคลายอื่นๆ พูดคุยกับคนใกล้ชิด 4.แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างความผูกพันใกล้ชิดต่อกันในครอบครัวและชุมชน  5.มองหาโอกาสในการช่วยเหลือผู้อื่นเปลี่ยนความรู้สึกจากการตกเป็นเหยื่อเป็นผู้กอบกู้วิกฤต 6.ศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา 7.หลีกเลี่ยงการใช้สุราหรือสารเสพติดในการจัดการกับความเครียด ความทุกข์ใจ ทั้งนี้หากพบว่ายังมีความเครียด ไม่สบายใจ ที่ไม่สามารถจัดการด้วยตนเองได้ สามารถขอคำปรึกษาได้จากบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง                   
*********************** 12 มกราคม 2560
 


   
   


View 19    12/01/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ