วันนี้ (24 ธันวาคม 2559) ที่โรงแรมอมารีเอเชียแอร์พอร์ท กทม  นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานมอบประกาศนียบัตรและให้โอวาทแก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้นเวชศาสตร์ครอบครัวสำหรับแพทย์ปฎิบัติงานในคลินิกหมอครอบครัว

นพ.โสภณ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและสนับสนุน นโยบายคลินิกหมอครอบครัว เพื่อปฏิรูประบบการดูแลสุขภาพประชาชน ด้านการบริการสุขภาพปฐมภูมิให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพตนเองโดยมีทีมหมอครอบครัว ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและร่วมดูแลสุขภาพประชาชนด้วยหลักเวชศาสตร์ครอบครัวซึ่งมี แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เป็นหัวหน้าทีม และ เพื่อให้เป็นไปตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติ 7 สิงหาคม 2559 ในหมวด 16 การปฏิรูปประเทศตามมาตรา 258 ได้บัญญัติไว้ว่า  ให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยในด้าน ต่าง ๆ ให้เกิดผล ดังต่อไปนี้ (ช) ด้านอื่นๆ(5) ให้มีระบบการแพทย์ปฐมภูมิที่มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ดูแลประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสมกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบาย คลินิกหมอครอบครัว หรือ Primary Care Cluster โดยมีเป้าหมายจัดตั้งคลินิกหมอครอบครัวดูแลสุขภาพประชาชนในสัดส่วน  1 ทีมต่อประชาชน 10,000 คน ให้บรรลุเป้าหมาย6,500 ทีมในเวลา 10 ปี ในปี 2559 เปิดดำเนินการนำร่องแล้ว 48 ทีมใน 16 จังหวัด และในปี 2560 จะเปิดดำเนินการอีก 548 ทีม รวมเป็น 596 ทีม ครอบคลุมประชาชน 6 ล้านคนในทุกจังหวัดทั้งเขตเมืองและเขตชนบท แต่ด้วยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวยังมีจำนวนไม่เพียงพอกระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการจัดอบรมระยะสั้น เวชศาสตร์ครอบครัวสำหรับแพทย์ปฏิบัติงานในคลินิกหมอครอบครัวแทนแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
โดยหลักสูตรระยะสั้นดังกล่าว จัดอบรมในเนื้อหาสำคัญคือ การจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิ , หลักการเวชศาสตร์ครอบครัวและระบบบริการปฐมภูมิ,การดูแลแบบองค์รวมประชากรทุกกลุ่มวัย และ การดูแลภาวะเจ็บป่วยที่มีความซับซ้อนใช้เวลาในการอบรมรวม4 เดือนในปีงบประมาณ 2559 จัดการอบรม 2 รุ่น ๆ ละ 100 คน รวม 200 คน รุ่นที่จะจบหลักสูตรในวันนี้เป็นรุ่นที่ 1 เมื่อจบการอบรมแล้ว แพทย์ที่ผ่านการอบรมทุกคนจะกลับไปทำงานใน คลินิกหมอครอบครัวเป็นการประจำ กระจายทั่วประเทศ เป็นการขยายการให้บริการให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบ ตามนโยบายคลินิกหมอครอบครัวคือ บริการทุกคน บริการทุกอย่าง บริการทุกที่ บริการทุกเวลาด้วยเทคโนโลยี สำหรับรุ่นที่ 2 จำนวน 100 คนจะจบหลักสูตรในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560และกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจะจัดอบรมในปี 2560 อีก 2 รุ่น จำนวน 200 คนต่อไป
          *************************************  24 ธันวาคม 2559


   
   


View 21    24/12/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ