วันนี้(30 พฤศจิกายน 2559) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2560  ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร  ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีได้ถวายสักการะ พระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ถ่ายรูปภาพร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ทดสอบสมรรถภาพร่างกายด้วยการปั่นจักรยาน ชมนิทรรศการการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย โดย ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย  นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ

 


 
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า เป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเยี่ยมกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นกระทรวงหลักของรัฐบาลควบคู่กับกระทรวงศึกษาธิการ ที่สร้างคนและรักษาคนให้แข็งแรง ให้มองอนาคตใน20ปีข้างหน้าต้องการจะมีทรัพยากรมนุษย์ที่เข้มแข็งอย่างไร ต้องมองย้อนไปตั้งแต่ปฐมวัย แม่ ทารก นำการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และความมั่นคงด้านการสาธารณสุขบรรจุเข้าอยู่ในแผนพัฒนา 20 ปี และทำแผนแม่บทให้ชัดเจนขึ้น  เน้นการป้องกันดีกว่ารักษา ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การที่สัดส่วนประชาชนอายุยืนจะมากขึ้น ได้มีการวางแผนดูแลประชาชนผู้สูงอายุอย่างไร ต้องดูปัญหา เริ่มต้น ตรงกลาง และปลายของช่วงอายุ เหมือนการศึกษาต้องไปดูความฉลาด สติปัญญา ตั้งเด็กแรกเกิด จนถึง 3 ขวบ โดยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลกระบวนการดังกล่าวแล้ว

กระทรวงสาธารณสุขยังมีปัญหาอีกหลายประการ ค่าใช้จ่ายมีมากขึ้น ต้องเน้นงานป้องกัน ใช้วิธีการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานในการป้องกันตนเอง  เราต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดการกินเกลือ น้ำตาล ป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ตรวจร่างกายประจำปี ก็จะมีคนป่วยน้อยลง  คนแข็งแรงประเทศก็เข้มแข็ง ไม่ต้องไปหมดเปลืองกันค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก นำเงินไปพัฒนาอย่างอื่น   ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะส่งเสริมยาแผนโบราณที่เป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของประเทศ โดยจะส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดยารักษาโรค เน้นการใช้ยาแผนโบราณแทนยาปฏิชีวนะ ซึ่งสามารถนำมาบูรณาการและเชื่อมโยงไปถึงการส่งเสริมทางการเกษตรเพาะปลูกยาสมุนไพรในแต่ละชุมชนด้วย ช่วยกระจายโอกาสและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ร่วมกันคิดหาแนวทางโดยรวมกลุ่มกันประชารัฐ ที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยรัฐบาลจะเป็นผู้นำในการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
 

 
ด้านนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแผนยุทธศาสตร์  20 ปี  ที่มีเป้าหมายทำให้คนไทยอายุยืนยาวขึ้น อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี เจ็บป่วยลดลง พฤติกรรมที่ไม่ดีให้ลดลง  ซึ่งได้บูรณาการทำงานร่วมกับกระทรวงอื่น เช่น การดูแลพัฒนาเด็ก หรือเด็กไทยในยุค 4.0 นำ  4  H ของกระทรวงศึกษามาดำเนินการร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคม กระทรวงมหาดไทย  ในส่วนผู้สูงอายุบูรณาการในเรื่อง 3 S และเรื่องการลงทุนในระบบบริการที่ได้ดำเนินการร่วมกับโรงเรียนแพทย์   กระทรวงศึกษาธิการ จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์  ทำแผนลงทุนร่วมกันเพื่อไม่ซ้ำซ้อนกัน ประหยัดงบประมาณ  โดยจะรวบรวมเสนอเป็นแผนยุทธศาสตร์ในระยะ 5 ปี เสนอเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี 

เรื่องการขับเคลื่อนนโยบาย คลินิกหมอครอบครัว ในปีงบประมาณ 2560 ต้องให้มีทีมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ตามรัฐธรรมนูญในสัดส่วนที่เหมาะสม   โดยจะของบประมาณจากรัฐบาล  เพื่อพัฒนาระบบปฐมภูมิ  ในด้านกำลังคน ได้นำเสนอในเรื่องการขาดแคลน โดยขอตำแหน่งข้าราชการ ขอคืนตำแหน่งเมื่อเกษียณอายุ  การขอตำแหน่งสูงขึ้นโดยไม่ต้องเอาตำแหน่งมายุบ และการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ กรณีทำงานในส่วนที่ไม่น่าอภิรมย์ 
 
 
ทั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยในด้านเศรษฐกิจ เช่น การขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ขึ้นทะเบียนได้เร็ว ขอให้สนับสนุนเรื่องของสมุนไพรไทยและเครื่องมือแพทย์ที่ผลิตในประเทศ เพื่อให้พึ่งตัวเองได้ ประหยัดงบประมาณ และเพิ่มรายรับของประเทศ
 
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อาจจะขอใช้มาตรา 44 แก้กฎหมายที่ติดขัด เพื่อให้ขึ้นทะเบียนได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาการจ่ายค่าตอบแทนผู้เชี่ยวชาญ หากเรียกเก็บได้ในอัตราที่เหมาะสม จะสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญจากมหาลัยต่างๆมาช่วยอ่านเอกสาร จะช่วยให้การขึ้นทะเบียนเร็วขึ้น
 
                    
************************************************
 


   
   


View 21    01/12/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ