รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไทย-กัมพูชา ลงนามความร่วมมือด้านสาธารณสุข 5 ด้านได้แก่ การเฝ้าระวังโรคติดต่อ การป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์เสริมสร้างความเข้มแข็งงานสาธารณสุขชายแดน และการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระดับพื้นที่ 

วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2559) ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาธร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมทวิภาคีระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขระหว่างไทยและกัมพูชา ร่วมกับ นายแพทย์ มัม บุนเฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการสาธารณสุขระหว่างประเทศให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุขของทั้งสองประเทศ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันหลังการหารือ 
 
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล ให้สัมภาษณ์ว่า ไทยมีความร่วมมือด้านสาธารณสุขในหลายประเด็นกับกัมพูชาภายใต้บันทึกการหารือ หรือ Minute of Discussion (MOD) ในทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังขาดกลไกในการดำเนินงานร่วมกันที่ชัดเจน การลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับความร่วมมือให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เป็นการร่วมมือกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่เท่าเทียมกันเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ ซึ่งกันและกัน  โดยจะมีความร่วมมือด้านสาธารณสุข 5 ด้าน ได้แก่ 1.การเฝ้าระวังโรคติดต่อ 2.การป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ 3.การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ เช่น การฝึกอบรมพยาบาลและนักระบาดวิทยา 4.การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสาธารณสุขชายแดน และ 5.การส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระดับพื้นที่
 
ทั้งนี้ การลงนามครั้งนี้มีความพิเศษเนื่องจากมีการจัดทำแผนปฏิบัติการและมีงบประมาณจาก กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (TICA) สนับสนุน และพร้อมดำเนินงานทันที เพื่อให้ความร่วมมือมีความก้าวหน้าตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ โดยกระทรวงสาธารณสุขไทยเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการ (Steering Committee) เพื่อเป็นกลไกในการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วม ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบกับข้อเสนอดังกล่าว คาดว่าการประชุมครั้งหน้า จะจัดที่เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา
********************* 17 พฤศจิกายน 2559
 
 
 
 
 
 
 
 
**************************
 
 
 


   
   


View 30    17/11/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ