รมว.สธ.สั่งหน่วยแพทย์ ดูแลบาดแผลผู้ประสบภัยจากดินโคลนน้ำป่าที่หล่มเก่าเป็นกรณีพิเศษ อย่างใกล้ชิด หวั่นแผลติดเชื้อรุนแรง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ดูแลบาดแผลผู้บาดเจ็บจากเหตุน้ำป่าถล่มที่ อ.หล่มเก่า อย่างใกล้ชิด หวั่นแผลติดเชื้อโรคจากดินโคลน ที่น่าห่วงคือ กลุ่มเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสทริเดียม ทำให้เกิดบาดทะยักและทำให้แผลอักเสบลุกลาม เนื้อตาย แม้จะมีบาดแผลเล็กน้อยก็ตาม รักษาฟรีทุกราย นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก ที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ว่า ในวันนี้ได้สั่งการกำชับให้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการทุกวัน โดยเน้นกำชับให้ดูแลบาดแผลผู้บาดเจ็บทุกราย แม้กระทั่งแผลถลอกเล็กน้อยก็ตาม ต้องดูแลใกล้ชิด เนื่องจากอาจเกิดการอักเสบได้ จากการสัมผัสดินโคลนที่มากับน้ำป่า เพราะจะมีเชื้อโรคปะปนมาด้วย ที่น่าห่วงก็คือเชื้อบาดทะยักที่เกิดจากเชื้อคลอสทริเดียม เททานี(Clostridium tetani ) และ เชื้อคลอสทริเดียม เปอร์ฟริงเจน (Clostridium perfringens )ที่ทำให้เกิดแผลอักเสบและลุกลามเป็นเนื้อตายได้ ที่เคยพบเมื่อเหตุการณ์น้ำก้อเมื่อพ.ศ.2544 มาแล้ว ซึ่งจะต้องทำแผลทุกวันและฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และกินยาปฏิชีวนะอย่างครบถ้วน โดยให้การรักษาฟรีทุกราย นายแพทย์มงคล กล่าวต่อไปว่า ในเช้าวันพรุ่งนี้ จะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัย ที่บ้านแก่งโตน ต.นาซำ อ.หล่มเก่า ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีประชาชนได้รับการเสียหายประมาณ 600 หลังคาเรือน และนำทีมนักวิชาการควบคุมโรคไปประเมินวางแผนช่วยเหลือป้องกันการเกิดโรคระบาดภายหลังน้ำลด ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สำหรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ในวันนี้มีนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งหมด 3 ราย รายที่หนักที่สุดอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์คือนายทัศน์ ลานรอน อายุ 48 ปี ขณะนี้ยังอยู่ห้องไอซียู อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากสำลักดินโคลนเข้าปอดจำนวนมาก พยาบาลดูดเสมหะยังพบมีเศษโคลนทรายออกเรื่อยๆ เอ็กซเรย์ปอดพบมีปอดบวมทั้ง 2 ข้าง แพทย์เริ่มให้อาหารทางสายยาง ส่วนบาดแผลที่นิ้วเท้าข้างซ้าย แผลแดงดี ไม่พบการอักเสบ แพทย์ฉีดยาปฏิชีวินะทุก 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อทั้งที่ปอดและบาดแผล ส่วนอีก 2 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลหล่มเก่า ได้แก่ นางบุญยืน แก้วเจิม อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 2 ต.นาซำ มีอาการตกใจอย่างรุนแรง เป็นลม ความดันโลหิตต่ำ ไม่มีบาดแผลตามตัว วันนี้อาการดีขึ้น แต่ยังมีอาการซึมเศร้า เนื่องจากบ้านพังทั้งหลัง และนายไหว ทองตัด อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 64 หมู่ 2 ต.นาซำ ถูกน้ำซัดและกองไม้ทับตัว ถูกสังกะสีบาด เป็นแผลที่แขนทั้ง 2 ข้าง มีรอยฟกช้ำตามตัว แพทย์ให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการ ติดเชื้อ ทำแผล ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักให้ อาการดีขึ้น ในวันนี้จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จำนวน 3 ทีม จากโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลหล่มสักและโรงพยาบาลหล่มเก่า ไปให้บริการตรวจรักษาที่ตำบลนาซำ และตำบลศิลา ซึ่งมีผู้ประสบภัยทั้งหมดประมาณ 3,000 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กๆน้อยเข้ารับบริการที่หน่วยเคลื่อนที่ 50 ราย อยู่ที่ ต.นาซำ 30 ราย ต.ศิลา 20 ราย บาดแผลส่วนใหญ่เป็นรอยขีดข่วน แผลถลอก ได้ทำแผลและให้ยาปฏิชีวนะไปกินป้องกันอักเสบ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้สำรองยาและเวชภัณฑ์ไว้อย่างเต็มที่